Life back into the original ,when your enthusiasm retrograde into elderly time...if you got no Alzheimer...you still be revise and remind knowledge as Wisdom legend Agent..
Sugar Thai Aid Red and Blue cross...
สมัยยังอยู่มัธยมกับช่วงปริญญาตรี แถวถนนอังรีดูนังค์และสยามสแคว์มีช่วงที่เสรีจากอกพ่อแม่เดินทางขึ้นรถประจำทางกลับบ้านเองและอยู่หอพัก มีช่วงที่ใช้ห้องสมุดก็จะหลุดไป ชอบหนังสือนิยายวิทยาศาสตร์ และหนังสือกำลังภายใน ที่เขาแปลสารพัดวรรณกรรมมาให้ได้อ่านกันแบบไม่แพงเช่าเอา รู้สึกเพ้อกันไปใหญ่ ปัญหาเรื่องทรัพย์สินทางปัญญายังไม่ดุดันมาก เห็นเลียนแบบพลอตเรื่องกันไปมา รวมไปทั้งวรรณกรรมชื่อดังหลายเรื่อง อย่างเพชรพระอุมา ผู้ชนะสิบทิศ ก็อ่าน เพราะแม่เขาชอบอ่านหนังสือ ตอนหลังดูหนังละคร ภาพยนต์รก็เริ่มลอกกันไปมาอีกแล้ว เดาได้ว่าน่าจะอะไร ไม่ได้เป็นแบบซิทคอมอย่างตอนนี้ ต้องเขียนบทเก่งจริงและฉลาดทั้งคนทำหนังและคนดู ไม่งั้นเสพกันไม่ไหว มันมึน เลยใช้วิธีพิเศษ อาศัยดูดข้อมูลส่วนตัวเอาตามหน้าเวปและโซเชี่ยนเนทเวอค เอาไปทำตลาดของพวกสินค้าเกี่ยวกับทรัพย์สินทางปัญญาทั้งหลาย เตะสกัดคู่แข่ง โดยการซื้อคู่แข่งและดองมันเสีย เป็นเช่นนี้ไปทุกกิจการ ในโลกของตลาดทุน ที่มีเจ้าพ่อสื่อชักใยอยู่ประเทศไหนก็ไม่รู้ ผู้นำทางการคิดไปปรากฏที่ไหนอย่างไรจะใช้สปายแวรและเครื่องมือสื่อสารคอยทำแมปติดตามทั้งภาพเสียง การเคลื่อนไหว จะได้เอาไปทำตลาดสินค้าใหม่ๆ ขายคนทั้งโลก พอพวกหน้าผาชันใช้กะไดปีนยากทำท่าจะย่ำแย่กันไปหมด อยากได้อะไรก้มาเอาไป ได้แต่ข้อมูลทำเหมือนลับล่อ แต่พอใจจะปล่อยให้เอาไป ประหยัดค่าทำโฆษณา เอาไปเหอะ หากทำให้ ชาวบ้านตาดำๆของข้อยได้มีอันจะกินมีความสุข ไม่ได้เสียแต่เงินเลี้ยงผู้หวังแต่กำไรมหาศาลบานตะไท ภาษีไม่อยากจ่ายอะไรแบบนี้
เอาละสูงสุดคืนสู่สามัญ ใช้กระบี่อยู่ที่ใจฟาดฟันมันเข้าไป เพราะมันใช้สปายแวรมาดูดความคิดของข้อยไปไม่ได้ ข้อยได้ส่งคลื่นรบกวนการเข้าถึงข้อมูลของข้อย ไว้แล้ว ประเทศของข้อยต้องปลอดคอรัปชั่นสักวันแหละ รายได้สูงโกงกินไม่ได้ กฏหมายก็จัดหนัก คนจนต้องหมดสิ้นแผ่นดินไทย คิดว่างั้นแหละ
Sugar Nature
https://www.facebook.com/StateINL
http://www.stock2morrow.com/showthread.php?t=26114&page=1
เดินสุ่มในวอลสตรีท : ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
เดินสุ่มในวอลสตรีท
ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากรถ้าจะหาหนังสือการลงทุน 10 เล่มที่เราควรอ่านก่อนที่เราจะลงทุนอย่างจริงจังหรือก่อนที่เราจะเป็นเซียนได้นั้น นี่คือหนังสือที่ผมคิดว่าเป็นเล่มที่ดีที่สุดเล่มหนึ่ง และมันอยู่ในระนาบเดียวกับหนังสือคลาสสิคอื่น ๆ เช่น The Intelligent Investor และ Common Stocks and Uncommon Profits สิ่งที่แปลกออกไปก็คือ นี่ไม่ใช่หนังสือที่บอกวิธีการเลือกหุ้นที่จะทำให้เรารวยหรือได้ผลตอบแทนสูงกว่าปกติ ตรงกันข้าม มันพยายามจะบอกเราว่า วิธีการเลือกหุ้นที่จะทำให้เราชนะได้อย่างต่อเนื่องยาวนานนั้น “ไม่มี” มันช่วยเตือนให้เราตระหนักว่า การลงทุนที่จะให้ได้ผลตอบแทนดีกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์นั้นทำไม่ได้หรือทำได้ยากมาก ที่ยิ่งทำให้เรา “หมดหวัง” ไปกว่านั้นก็คือ ข้อเขียนและเนื้อหาต่าง ๆ ที่กล่าวไว้ในหนังสือนั้น อิงอยู่กับการศึกษาของนักวิชาการชั้นนำระดับโลกทั้งสิ้น และนี่คือหนังสือชื่อ The Random Walk Down Wall Street แปลเป็นไทยก็คือ “เดินสุ่มในวอลสตรีท” เขียนโดย Burton G. Malkiel ซึ่งตีพิมพ์ครั้งแรกในปี 1973 หรือกว่า 35 ปีมาแล้ว แต่ยังมีการปรับปรุงและพิมพ์ขายใหม่มาตลอด
เนื้อหาหลักของ “Random Walk” นั้นพูดถึงทฤษฎีการลงทุนว่ามีอยู่ 2 กลุ่มใหญ่ ๆ คือ กลุ่มแรกที่เชื่อว่าราคาหุ้นนั้นเป็นเรื่องของจิตวิทยาของนักลงทุนเป็นหลัก โดยที่พื้นฐานของกิจการนั้นมีผลเพียงแค่ 10-20% กลุ่มนี้ ถูกเรียกว่ากลุ่ม “วิมานในอากาศ” หรือ Castle-in-the Air Theory อีกกลุ่มหนึ่งคือกลุ่มที่เชื่อว่าราคาหุ้นนั้นขึ้นอยู่กับพื้นฐานของกิจการเป็นหลักในขณะที่จิตวิทยานั้น ถ้าจะมีผลก็ไม่เกิน 10-20% เช่นกัน เรียกกลุ่มนี้ว่ากลุ่ม “พื้นฐานของกิจการ” หรือ Firm-Foundation Theory โดยกลุ่มแรกนั้น คนที่เชื่อก็จะใช้เครื่องมือที่จะสามารถ “จับกระแสหรือจิตวิทยา” ของนักลงทุนเพื่อที่จะนำมาใช้ในการซื้อหรือขายหุ้นที่จะทำให้ได้กำไร เครื่องมือหลักอย่างหนึ่งก็คือ เส้นกราฟของราคาหุ้นแต่ละตัวและดัชนีตลาดรวมถึงปริมาณการซื้อขายของหุ้นด้วย ส่วนการวิเคราะห์ที่ใช้ก็คือ “การวิเคราะห์ทางเทคนิค”
กลุ่มที่สองนั้น คนที่เชื่อก็จะใช้ “ข้อมูลพื้นฐาน” ของกิจการ เช่น ยอดขาย กำไร การเติบโตของเงินปันผลและฐานะทางการเงินของกิจการ มาพิจารณาและคำนวณหา “มูลค่าที่แท้จริง” หรือที่เรียกว่า Intrinsic Value ของหุ้น เพื่อที่จะพิจารณาว่าราคาหุ้นในตลาดนั้นสูงหรือต่ำกว่า ถ้าราคาหุ้นในตลาดต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริง เขาก็ซื้อ เพราะเขาเชื่อว่าในที่สุดราคาตลาดจะต้องวิ่งไปหาราคาที่แท้จริงเสมอ และคนที่เชื่อในทฤษฎีนี้ก็คือพวกนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ทั้งหลาย ซึ่งแน่นอน รวมถึง Value Investor ด้วย
แต่ Malkiel บอกว่าราคาหุ้น โดยเฉพาะในช่วงสั้น ๆ นั้น “คาดไม่ได้” และ “ไม่มีแบบแผน” มันเหมือนกับคนเมาที่ “เดินสุ่ม” นั่นคือ เขาจะเดินมาอย่างไรก็ตาม แต่ก้าวต่อไปของเขานั้นไม่รู้ว่าจะไปซ้ายหรือขวา หน้าหรือหลัง ไม่มีใครรู้ ดังนั้น ไม่ว่าคุณจะใช้เท็คนิคอะไรก็ไม่ได้ผล ในบางครั้งบางคราวก็ดูเหมือนว่ามีเท็คนิคบางอย่างสามารถนำมาใช้ทำกำไรจากการซื้อขายหุ้นได้ แต่ผ่านไปสักพักเมื่อมีคนรู้นำมาใช้มากขึ้น เท็คนิคนั้นก็ใช้ไม่ได้ผลอีกต่อไป
พื้นฐานหลักที่ทำให้เราไม่สามารถเอาชนะตลาดหรือทำกำไรได้มากกว่าปกติไม่ว่าจะใช้เท็คนิคอะไรนั้น Malkiel บอกว่าเป็นเพราะตลาดหุ้นนั้น “มีประสิทธิภาพ” ในการที่จะปรับราคาหุ้นให้สะท้อนถึงพื้นฐานและข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับกิจการหรือหุ้นได้รวดเร็วมาก และโดยเฉลี่ยแล้วราคาหุ้นก็ปรับตัวได้ถูกต้องตามที่ควรจะเป็น นั่นหมายความว่า บางครั้งราคาหุ้นก็ “ผิด” ไปจากที่ควรจะเป็นเหมือนกัน เช่น ราคาอาจจะสูงเกินไป หรือบางช่วงราคาก็อาจจะต่ำเกินไป แต่ในไม่ช้ามันก็สามารถปรับให้ราคาเข้ามาใกล้เคียงกับที่มันควรเป็น พูดง่าย ๆ ตลาดหุ้นคอยปรับให้ราคาหุ้นมีราคาโดยเฉลี่ยแล้วเหมาะสมอยู่เสมอ อย่าพยายามหา “ราคาที่เหมาะสม” ในทางทฤษฎีหรือทางจิตวิทยาเลย
ด้วยแนวความคิดและความเชื่อในเรื่องของความมีประสิทธิภาพของตลาดและเรื่องการ “เดินสุ่ม” ของราคาหุ้นดังกล่าว Malkiel จึงคิดว่าเราไม่ควรเลือกซื้อขายหุ้นเอง เพราะทำไปก็ไม่มีประโยชน์และต้องเสียค่าคอมมิชชั่นสูง แต่หุ้นนั้น โดยเฉลี่ยในระยะยาวแล้วให้ผลตอบแทนที่ดี ดังนั้นเขาได้เสนอกลยุทธ์ในการลงทุนต่าง ๆ ที่นักลงทุนควรทำ เช่น การลงทุนในกองทุนรวมหุ้นที่อิงดัชนีตลาด ซึ่งช่วยลดต้นทุนในการลงทุนลง และการใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีที่รัฐมอบให้ อย่างกรณีของไทยก็คงคล้ายกับการลงทุนในกองทุน RMF และ LTF เป็นต้น
นอกจากทฤษฎีการลงทุนและแนวความคิดหลักของหนังสือแล้ว สิ่งที่ทำให้หนังสือเล่มนี้มีคุณค่าโดยเฉพาะสำหรับ Value Investor ก็คือ มันเป็นหนังสือที่ “เล่าประวัติศาสตร์” การลงทุนย้อนหลังไปยาวนานมากได้อย่างยอดเยี่ยม ไม่ใช่ประวัติศาสตร์ของบุคคล แต่เป็นประวัติศาสตร์ของตลาดและแนวความคิดการลงทุนเป็นยุค ๆ ที่ค่อนข้างสมบูรณ์และทุกอย่างมีวิชาการประกอบ แต่ขณะเดียวกันเป็นหนังสือที่อ่านได้ไม่ยากสำหรับบุคคลธรรมดาที่ไม่ได้เรียนมาทางสายการเงินโดยตรง สำหรับผมแล้ว มันเป็นหนังสือคลาสสิคที่อ่านแล้ว “ไม่หลับง่าย” เหมือนหนังสือคลาสสิคหลาย ๆ เล่ม
นักลงทุนโดยเฉพาะ Value Investor ที่ประสบความสำเร็จสูงหลายราย อาจจะมี “อคติ” กับแนวความคิดที่ว่า “ไม่มีใครสามารถสร้างผลตอบแทนเหนือกว่าปกติได้” ในหนังสือเล่มนี้และพลอยทำให้ไม่อยากอ่าน เพราะเขาอาจคิดว่าตัวเองสามารถทำกำไรมหาศาลได้ด้วยการวิเคราะห์และลงทุนแบบ Value Investment ดังนั้น หนังสือเล่มนี้คงจะ “ผิด” และเป็นเรื่องของนักวิชาการบนหอคอยงาช้างที่ไม่เข้าใจโลกที่เป็นจริง ข้อนี้ผมคิดว่าต้องคิดใหม่ อย่าลืมว่าคนที่เขียนหนังสือเล่มนี้ นอกจากเป็นนักวิชาการแล้ว เขายังเป็นผู้บริหารระดับสูงมากในธุรกิจการเงินและการลงทุนด้วย เหนือสิ่งอื่นใด VI ที่ดีนั้น ต้องเปิดกว้างรับความเห็นที่เป็นประโยชน์ รวมทั้งจากคนที่ “มองต่าง” ด้วย
เดินสุ่มในวอลสตรีท
ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
โลกในมุมมองของ Value Investor
August 23, 2009
นักลงทุนผู้ประสบความสำเร็จ จะเพิกเฉยต่อข้าวร้ายที่เกิดขึ้นในตลาด
http://www.state.gov/secretary/rm/2012/12/201706.htm
International Anticorruption Day
Hillary Rodham Clinton
Secretary of State
Secretary of State
Washington, DC
December 9, 2012
Today we recognize International Anticorruption Day and honor the tireless efforts of activists, businesses, government officials, and international organizations to combat corruption and promote open and transparent government.
While much work remains, 2012 was a successful year in the global fight against corruption. Since its inception last year, the Open Government Partnership has grown sevenfold and now includes 58 countries representing a quarter of the world’s population, encouraging greater access to information, citizen engagement, and fiscal transparency. The United States and the world’s largest economies have been leading by example, as the G20 created an ambitious anticorruption action plan for the next two years and adopted principles to keep corrupt officials away from our borders. Under the U.S. presidency, the G8 joined regional partners to convene the first Arab Forum on Asset Recovery in order to help identify and recover proceeds of corruption stowed abroad.
The United States is committed to preventing corruption and the destructive impact it has on communities around the globe. With our partners, we are working to promote legal regimes that prosecute corrupt actors, recover the proceeds of corruption and other illicitly acquired assets, and fight other crimes such as money laundering. The United States is proud to be a partner in the global fight to combat corruption and applauds all those working to sustain transparent, open societies around the world.
PRN: 2012/1944