วันจันทร์ที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2552

Humanity right protect and missions..noway out no moral...no law force?????

http://edition.cnn.com/2009/WORLD/europe/12/12/copenhagen.protests/index.html

happy birth day for my puppies..one year old





look like this time is a lot of political and foriegn affairs trick and issues in many ways...it is not easy to make pressure to rich person or country to do for lower thier  benefit....why they must realize in poverty negotiation on safe the world for poorer????because only top launch export or high end countries can control this world by thier manufacturing products ....united nation is only organize...no enforcement???..why they can doing only sanction????the force u can do only lower power of trade influency in this world only that....rich must be rich forever....and high technology in trade production must in top cargo for export...no rice ..no crob.. no meal....we got only gold stock ...and cash and stock stake holders inside every stock markets of this world....political or environment complain forcement cannot make richer to stop big profit for thier countries....what about carbon mon noxide????from our industries products??????no no no !!!!!imposible...all of our big and huge factories do only clean energy.!!!..all diasters effect are  fault from your  bad protect environmemt policy!!!!!bacause of bad control in environment in poverty slum zone and bad under control of toxin from bull shit industrial reaestate in your poorest countries make yourselves fail into dump climate change by yourselves...not my mistake.....!!!!!!please understand...the extreame poor!!! the rich must be rich forever...we born with full rich!!!!!


stage in environment conference are only joking stage that poorest need political technical to break richer and high technology in industries increase volume of products...only that...no way...rich cannot stop to do industries....we must make richer and poorest customers more and more...


wut about humanty right protect for bad effect from environment crisis for human on this world....?????bad suck!!!!richer cannot do anything...that is your way to find more land to live outside our richer world!!!!


donot stop my industrial projects and all misssions....only role play for this world only that....no significance about bull shit researches  about el niyo or carbonmonoxide or freeze icing melt.....!!!!!


forget it...you are not in richer world ...sorry...!!

การคุ้มครองสิทธิพลเมืองจาก การละเมิด มันยาก แม้แต่เวทีระดับโลกที่ประเทศร่ำรวยไม่เคยสนใจใยดีกับดลกใบน้อยนี้ ว่าคนที่แย่มีเยอะ ช่างประไร ไม่งั้นจะมีวิญญานนักล่าอาณานิคมเหลืออยู่ได้อย่างไร การรวยได้ต้องเอาเปรียบประเทศที่มันจนกว่าทุกวิถีทาง  เศษเงินที่โยนให้สารพัดดครงการความช่วยเหลือมันก็โดนโกงกินไปหมดสิ้น เสียเวลาไร้สาระกับประเทศยากจน  ปัญหาคอรัปชั่นเอาแต่พวกพ้อง ปัญหาการขาดโอกาศทางการศึกษา ย่อมทำให้ทรัพยากรมนุษย์ไม่มีทางเจริญ  บางภูมิภาคที่แห้งแล้งลำบากก็ได้แต่ดยกย้ายเป็นแรงงานพลัดถิ่น ไร้การศึกษาอยู่นั่นแล้ว

      บางภูมิภาคอุดมสมบูรณ์ โอกาศทางการศึกษามีมาก พ่อแม่ส่งให้เรียนได้สูง ต้องเรียนพวกการเมือง กฏหมายการปกครองด้วยยิ่งดี เป็นนายสั่งอย่างเดียว  เรียนอย่างอื่นก็ได้ เดี๋ยวพรรคพวกช่วยกัน ภูมิภาคบางที่ช่วยกันแต่พวกพ้องอยู่นั่น เรื่องการเลือกปฏิบัติในที่ทำงานไม่เคยมี  ไม่เชื่อเช็คดูเลยว่าทำไมภาคเอกชนถึงได้สุดยอดทรัพยากรมนุษย์ไปครอบครองมากมาย หน่วยงานภาครัจัดสรรบุคคลากรตามภูมิภาคให้มีจำนวนใกล้เคียงกัน ในทุกหน่วยงาน การหมุนเวียนไม่มี ยิ่งในชนบทห่างไกล ถึงขนาดมีเจ้าแม่เจ้าพ่ออยู่กันนิรันดร บางหน่วยงานแสนจะมีสวัสดิการดีงานไม่ซัปซ้อน แต่ได้โอกาศปกครองผู้คนทั้งองค์กร ก็ส่งแต่เพศผู้ลงไปให้เต็มพิกัด ส่วนเพศเมียนั้นอยู่ที่ใช้แรงงานหนักค่าตอบแทนต่ำๆ เพราะร้องแรกแหกกะเชอไม่เป็น งานไหนได้เงินเสนอหน้าไปทำจนหมดสิ้น งานไหนไม่ได้เงินกูไม่ไป อย่าได้บังคับเลยเชียว กูถือทั้งเงินสดทั้งเครดิตเดี๋ยวไม่อำนวยความสะดวกให้เสียเลย อย่ามาหวังย้ายนะ เพราะ กิ้งก่าได้ทองสามารถอย่างนี้ ต้องหมกเม็ดเสียให้เข็ด งานที่เป็นของที่ทำงานจะโหลดข้อมูลไปทำลายทิ้งให้หมดสิ้นเลยเชียว ส่งต่อเป็นพี่เลี้ยงเหรอฝันไปเหอะ เรื่องถ่ายทอดองค์ความรู้ประสบการณ์ไม่เคยมี บ้า ถามเอาบอกเอาเร็วกว่า ไม่เคยมีฐานข้อมูล ลบทิ้งให้หมดขี้เกียจหา

เวลามีใครมาตรวจให้รางวัลวิ่งหาสิ่งนำเสนอกันยกใหญ่ไม่รู้ประเทศไหนองค์กรใด

ช่างมันเหอะเพราะ ยาก เรื่องการกระจายอำนาจหรือบริหารจัดการบ้านเมืองที่ดี ต้องอาศัย พื้นฐานทรัพยากรมนุษย์ที่ยอดเยี่ยม ดูเอาเหอะเวทีโลกประเทศที่รวยมีที่ไหนจะยอมรวยน้อยลง ประเทศยากจนต่อรองเอาเรื่องทรัพยากรสิ่งแวดล้อมมาบังหน้า จะทำให้ผลผลิตทางอุตสาหกรรมของพวกรวยลดลง อย่าหวังทีเดียว ไม่มีทาง เพราะ ประเทศยากจนคือแหล่งแรงงานและทรัพยากรราคาถูก ประเทศรวยเขาจ้างคนเขาแพง บอกว่าไม่สนใจโลกจะร้อนไม่ร้อนยังไงช่างมัน ให้คนตายหมดโลกก็ช่าง ไม่งั้นประเทศฉันจะรวยได้ไง ขืนบ้าตามข้อเรียกร้องไร้สาระที่รังจะทำให้เงินเข้าประเทศฉันน้อยลง โรงงานอุตสาหกรรมหนักลงทุนเยอะ ไม่ได้เอาแต่ปลูกข้าวทำนาเหมือนประเทศจนนี่หว่า จนต่อไปเหอะ ปลูกผักหญ้าไป จะรวยให้เบื่อไปอีกสิบชาติค่อยมาคุยในที่ประชุมกันใหม่ละกัน คือว่าเรื่องกิ้งก่ากับหมกเม็ดจำน้องหนุ่มหล่อมาอ้างหน่ะ พูดได้ใจดี เรื่องทำเป็นกลมกลืนกลมกล่อมเนี่ยเก่งนัก คือว่าพวกสปีชี่นี้ปรับตัวเข้ากับสิ่งแวดล้อมดี  น่าเอาไปปล่อยที่เดนมาร์กสักฝูงนึง ตอนประชุมสิ่งแวดล้อมเนี่ยแหละ

sugar and humanity right protect festival insid e  my big office centre today and bad news from denmark...kopenhegen environment conference...









Hundreds detained in Copenhagen protests

December 14, 2009 -- Updated 0317 GMT (1117 HKT)
 
Copenhagen, Denmark (CNN) -- Thousands of protesters took to the streets and hundreds were detained Saturday in Copenhagen as they demanded a climate-change agreement that would curb greenhouse gas emissions and aid developing countries harmed by pollution.
They marched to the Bella Center in the Danish capital, where the global climate change summit is being held.
More than 900 protesters were detained, police told CNN, but nearly all were released. Only five were charged and will go to court Sunday, police said.
Countries are expected to end negotiations in Copenhagen on an ambitious new climate deal by next Friday, the end of the two-week summit.
Video: Global Warming Insurance
RELATED TOPICS
Environment ministers came to Copenhagen this weekend for talks, and world leaders are to arrive late next week.
Considerable progress has been made in areas including technology, adaptation and the prevention of deforestation, Yvo de Boer, executive secretary of the U.N. Framework Convention on Climate Change, told reporters on Friday. "It is now also time to begin to focus on the big picture."
De Boer hailed the European Union announcement to provide 7.2 billion euros, or $10.6 billion, over the next three years to help developing countries take action on climate change.
EU climate pledge: full story
All 27 EU member states will pledge money in what is regarded as a major effort to reach a climate change deal.
That deal was struck on the second day of a EU summit in Brussels, Belgium, and leaders plan to make the money available in a "fast start" fund for poor nations dealing with rising sea levels, deforestation and other problems related to climate change.
CNN's Carol Jordan contributed to this report.

วันเสาร์ที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2552

กล้วยไม้ของฟรีออกดอกสวยจังดีใจNICE ORCHID IN MY GARDEN FULL OF NICE BLOSSOM NOW!!!

MY CRASY ABOUT FLOWER AND ORCHID.




ความที่มีคนชอบปลูกกล้วยไม้รู้จักกันอยู่หลายคน

โดยเฉพาะพ่อนั้นเขาเป็นนักเกษตร

้วย เขาว่ามันมีรากอากาศและชอบดูดพวกไนโตรเจนมาเพื่อออกดอกสวยงาม

ชอบอากาศชื้นมีร่มเงาและอากาศต้องอุณหภูมิอย่างนี้tropical zone

ไม่งั้นก็ไม่มีดอกมากมาย

ช่วงนี้กล้วยไม้ที่ได้จากของแจกพร้อมร้านอาหารเรือนแก้วที่กินข้าว

ก็แถมกล้วยไม้พวกหวายก็ออกดอกดีแฮะ

ช่วงใกล้หน้าหนาวอย่างนี้นะเนี่ย

ส่วนพวกดอกไม้อย่างอื่นพ่อว่าคนขายเขาเร่งปุ๋ยเร่งดอกเพื่อขายหมดแล้วเลิกเลยคงไม่มีดอกอีก

ต้องเอาใจมากด้วยเพราะต้องให้น้ำให้ปุ๋ย

ถ้าชอบดูแลทุกวันคงเป็นพวกกุหลาบ

แต่ก่อนเห็นคุณอาหม่อมอัจฉรีย์ชัย

ที่เคยทำงานมูลนิธิกับพ่อเขาก็ปลูกขายที่เชียงใหม่เหมือนกัน

ดอกกุหลาบที่เชียงใหม่ทางเหนือของเราก็สวยดีดอกใหญ่

อาจจะสู้ทางยุโรปเขาไม่ได้นักเรื่องสุขภาพขนาดสายพันธ์

ืแต่ก็พอขายได้นะ

ไม่งั้นกุหลาบจากฮอลแลนด์หรือจากเมืองจีนก็เต็มไปหมด

มาจากปากคลองโน่นขายส่ง

แต่ก่อนมีความสุขจริงมีร้านดอกไม้เจ้าประจำอยู่ท่าช้างกับท่าศิริราชหลากหลายดีราคาพอสู้

ตั้งแต่สมัยเป็นทนายความที่สอคอชอก็พอซื้อหามาประดับโ๊ต๊็ะสดชื่นดี

ส่วนช่อสวยที่มีหนุ่มให้มาบ้างก็เข้าท่าดีทำให้ีลืมๆไปบ้างเหมือนกันกับความเบื่อ

กล้วยไม้ตอนที่ไปเยอรมันน่าจะมาจากไทย

ดอกใหญ่สวยมาก

ฝรั่งชอบเห็นพวกน้องสาวหามาประดับบ้านหรือเป็นของขวัญกันเยอะ

กลีบสวยแข็งแรงราคาดี

ีเดินทางไกลไปขายความงดงามกันที่ยุโรปโน่น

ตอนอยู่ที่อยุธยากล้วยไม้ส่งเข้าคัดสรรผลิตภัณฑ์ชุมชนด้วยยี่ห้อOTOP

ก็สวยเฉพาะวันที่จะให้กรรมการเขาตรวจ

แต่ก็มีมาตรฐานได้ระดับเพราะสวยงามจริงๆเหมาะกับการส่งประกวด

จำได้ว่าช่วงนั้นก็ตาแฉะเลยเพราะจดจำทำทุกอย่างดีเหมือนกัน

ฝึกงานแบบการตลาดเนีย ชอบ

และต้องคัดกรองมาตรฐานหลักฐานอีกชอบจริง

กว่าจะเตรียมเอกสารหลักฐานพร้อม

ได้ของดีห้าดาวมาได้

ทำให้พัฒนาชุมชนกระอักไปหลายรอบกว่าจะถึงมือกรรมการทุกกระทรวง

ทั้งปลุกทั้งปั้นสารพัดกว่าจะได้ผลิตภัณฑ์ยอดเยี่ยมจากชุมชนมาสักชิ้นสักอย่าง

ปั้นตั้งแต่ยังไม่มีกลุ่มอาชีพจนมีกลุ่มอาชีพเรื่องบัญชีการตลาดยังต้องช่วยด้วย

ส่งเสริมการขายอีกต่างหาก

ยอดนักพัฒนาชุมชนจริงๆชาวพอชอเนี่ย

ตอนไปเที่ยวที่โบนันซ่าเขาใหญ่กับกองการต่างประเทศคราวที่แล้วเขาขายดอกกล้วยไม

้แต่อยู่ได้ไม่ถึงสองวันเหี่ยวหมด

ได้แต่รูปไว้ดู

ไม่เหมือนพวกที่ส่งออก

ทนจริงๆ

ต่อไปอาเซี่ยนแลกเปลี่ยนสินค้ากันมากขึ้นการค้าคงไม่มีพรมแดนอีกต่อไป

สงสัยช่องว่างความมั่งมีระหว่างประเทศในแถบเอเชียอาจจะลดลงบ้างก็ได

้คล้ายกับแถวชายแดนยุโรปบ้านน้องเรา

หากลดความอยากขายของเทคโนต่างๆได้

โดยประเทศรวยๆในบางภูมิภาคลงสักนิด

หรือพวกที่เหลือกินเหลือใช้ในประเทศกำลังพัฒนาต้องเสียภาษีมากกว่า

คนชั้นกลางและชั้นล่างมากขึ้นหน่อยอาจช่วยได้บ้าง

ไม่งั้นธนาคารในยุโรปหรือตามเกาะบางพวกจะพากันรวยไปตลอดชาติ

ไอ้พวกจนบางพวกก็จงจนและขี้โกงไปตลอดเพราะมีความชอบธรรมในการโกงทั้งกลุ่มทั้งองค์กรแล้ว

หากไม่โกงอาจอดหยากปากแห้งกันหมดทั้งองค์กร

ทำเรื่องค่าล่วงเวลาผลประโยชน์เงินเดือนสวัสดิการค่าตอบแทนหรือcareer path หนทางความเจริญทางอาชีพไม่ได้เรื่อง

กฏหมายลงโทษคนโกงก็ยากจะจับมือใครดมได้เล่นโกงร่วมมือเป็นหมู่คณะตั้งแต่หัวยันหาง

ประเทศไหนองคกรใดก็ไม่รู้

ไอ้พวกตรวจดุคุมสอบสวนบางพวกเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ยังอุตสาห์ได้ค่าตอบแทนพิเศษ

ว่าได้งานเป็นงานสามารถพิเศษถึงได้ตังค์เพิ่มเพิ่มหาตะหวักตะบวยอะไรกันเนี่ย

บางพวกทำตัวเพิกเฉยไม่ทำหน้าท ี่ตาบอดเรอะไงความผิดซึ่งหน้าแท้ๆ

เป็นช่องทางให้เกิดการทุจริตเบียดบังรายได้สวัสดิการของคนบางกลุ่มที่ถูกปิดกั้นข้อมูล

ไม่สามารถรไดู้้ว่าตนควรได้ประโยชนตอบแทนตามงบประมาณต่างๆเท่าใดอย่างใดไม่มีความโปร่งใส

งุปงิปกันตั้งแต่ระดับบนยันล่างไม่รู้ที่ไหนบุคคลใด

เอาส่วนที่เบียดบังจัดสรรไปให้กับพรรคพวกที่เอื้อประโยชน์ให้ตนเอง

ส่วนไอ้บ้าที่ไม่เอื้อประโยชนให้อย่าหวังจะได้เศษเงินหรือประโยชนโภชนผลนี้

ทั้งความชอบทั้งงานอย่าหวังได้ดีเลยชาตินี้ทู้ซี้ทำงานไปเหอะไอ้พวกฉลาดเรียนสูงบ้าคุณธรรม

อย่าหวังได้รายได้ต่อเดือนเงินรางวัลเพิ่มเลยเชียวไอ้พวกนี้

ต้องใช้กลยุทธกำจัดมันเสียตามวัฒนธรรมองคกรเต่าล้านปี

เช่นไม่จ่ายงานให้หรือ้เก็บงานทำเองหรือไม่สอนงานด้วย

หรือเลือกแต่งานที่ไม่ใช่ไม่ถนัดไม่เข้าท่างาน่วิชาชีพมาให้ทำ

เลือกงานจริงว้อยไอ้พวกนักวิชาชีพเนี่ย

ไม่รู้เวรกรรมอะไรต้องมาอยู่กะพวกที่เคยมีจรรยาวิชาชีพเฉพาะคุณธรรมมากอยากอ๊วก

สงสัยจะรักองคกรและผลประโยชนของประชาชนมากไปอุดมการเกินไปนะ

หาวิธีใหม่็ใช้กลยุทธวางยาเบื่อให้นายเหนือนายด่าเพื่อให้เสียงานร้อยแปดกล่าวหากันจริง

เพราะพวกหน้าบางทนไม่ได้เนาะ

ไอ้พวกที่ไม่ต้องฉลาดเลิศล้ำแต่โกงเก่งถึงจะรอดรายได้แค่นี้

โกงเอาทางได้ของคนอื่นเสียอีกสามเท่าห้าเท่าทุกคาบแค่นี้มีกินทั้งครอบครัวแล้ว

ลูกผัวเมียที่บ้านรู้หรือเปล่าไม่รู้ช่างมันกินอิ่มนอนหลับพอแล้ว

หน้าหนาไม่เคยอาย

ต้องโกงถึงจะมีรายได้ตลอด

กระหายหิวเงินเหมือนนักวิชาการบางท่านที่ลาออกไปแล้วว่าไว้แล้ว

ว่าตระกรุุมตระกรามเข้าไปอยู่นั่น

กินอยู่นั่นแล้วเรื่องแบ่งให้ลูกน้องผองเพื่อนไม่เคยมีพุงแตกแล้วเห็นไหมนั่น

แบ่งให้แต่กองกลางซองขาวให้นายนั่นแหละ

กล่าวหากันทั้งเพใช่ไหม

เพราะกลัวจะจนอีกจะโดนพวกคนรวยทั้งโคตรดูถูกเอาอีก

หน้าด้านหน้าทนจริงๆไอ้พวกหน้าหนาโกงกินบ้านเมืองเนี่ย

หรือว่ากฏหมายมันลงโทษไม่ได้

และไอ้คนที่ไม่โกงก็เบื่อ

พูดไปแค่นั้นเหมือนเป่าสากกะเบือ

สู้ดอกกล้วยไม้ก็ไม่ได้ถึงจะทนแต่ก็หอมทนและกลีบแข็งแรงเหมาะแก่การส่งออกจริงๆเลย

กล้วยไม้ไทยจงเจริญ!!!

i love orchid and pretty roses...they are very tolerate in this nice humidity region in our country...next time big exchange about

flower market in ASEAN area ...make better chance about big innovation for export bes t orchid from thailand ...get best potential

for compettition with others from european zone also...especially wild orchid...it is not poppular in our country

but alway spread to europe rapidly...famous farm can penetrate central area of west zone or africa or arabian...not

only far east like japan..market

i think that our orchid farm in thailand both inside middle or north of thailand can do big marketing and sale promotion under

our supporting from government and public organize from bond market also...

i hope that our tough orchid can concour or fight all commpettitions in market...nice tough flowers about best orchid ...difference from cheat person ...they always gave benefit or convenient only for thier groups or organizations...hope that formal in high powerful of punish can delete the corrupsion style out off our country soon...hope so..

sugar and wild orchid ...tolerate in great way~!!!

คือว่าตอนนี้ชอบแคททรียาเป็นพิเศษก็เลยขอชอบหน่อยนะจ้ะ

ที่เพิ่งได้มาห้อยอยู่บนราวข้างรั้วก็หอมดีสีขาวสวยเลยใกล้เหี่ยวแล้วด้วย

http://www.orchids.mu/Species/Cattleya/index.html
Cattleya

C. Dedicated to William Cattley, a 19th century English horticulturist: one of the earliest persons to build a collection of exotic orchids. This genus is called the "Corsage" Orchid

Cattleyas are among the most commonly grown orchids, and their culture is often used as the basis for comparison with other types of orchids.

The flowers in cattleya and their related hybrids come in many colors. Culture varies only slightly among most of these groups; this cultural information is a general guide to "standard cattleya" culture.

Like most other cultivated orchids, cattleyas are epiphytes, or air plants. Because they are epiphytic, they have developed water-storage organs, called pseudobulbs, and have large, fleshy roots covered with a spongy, water-retentive velamen. They are accustomed to being dry at the roots between waterings, and therefore should be potted in a very porous, free draining medium.

ca8 Top

LIGHT

Is one of the most important factors in growing and blooming cattleyas whether in a greenhouse setting or in the home. Bright light to some sun must be given to the plants, but no direct sun in the middle of the day. This means an east, shaded-south (as with a sheer curtain) or west window in the home and 30 percent to 50 percent of full sun in a greenhouse (3,000 to 5,000 foot-candles). Leaves should be a medium green color.

TEMPERATURES:

Recommended temperatures are 13 to 16 degrees C (55 to 60 F) at night and 21 to 30 degrees C (70 to 85 F) during the day. Seedlings should have night temperatures 2 to 4 degrees C (5 to 10 F) higher. A 4 to 8 degree C (10 to 20 F) differential between day and night is recommended, especially for mature plants. Higher day temperatures can be tolerated (up to 35 degrees C - 95 F), if humidity, air circulation and shading are increased.

ca7 Top

WATER:

Should be provided in two ways: in the pot by watering and in the air as humidity. Watering in the pot is dictated by many criteria - size and type of pot, temperature,light, etc. Mature cattleyas need to dry out thoroughly before being watered again. Seedlings need slightly more constant moisture. Compare the weight of a dry pot of the same size and type of medium; it can indicate if a plant needs water. A freshly sharpened pencil inserted in the potting medium can be an indicator of moisture. If in doubt, it is best to wait a day or two until watering. Plants in active growth need more water than plants that are resting. Water below 10 degrees C (50 F) may injure plants, as will softened water.

HUMIDITY

Cattleyas need 50 to 80 percent relative humidity. This can be provided in the home by placing the plants on trays of gravel, partially filled with water so that the plants stand above the water. Misting the plants in the morning only is helpful in dry climates. Air should always be moving around the plants to prevent fungal or bacterial disease, especially if high humidity and/or cool temperatures exist. In the greenhouse the humidity can be increased by wetting the floor. Evaporative cooling increased humidity while cooling the air.

ca6 Top

FERTILIZER

Must be given to cattleyas on a regular schedule. In fir bark, a high-nitrogen (30-10-10) formulation, or a similar proportion, is used. High-phosphorus or bloom booster (10-30-20) formulation may be used occasionally (every 4 to 6 applications) to make sturdy growths and promote healthy blooming. When in active growth, plants need fertilizer every two weeks, and when not growing, once a month. Fertilizer can also be applied with every watering at one quarter recommended dilution. Thorough flushing with clear water every month is recommended to prevent buildup of fertilizer salts.

POTTING: Is necessary when 1) the rhizome of the plants protrudes over the edge of the pot, or 2) the potting medium starts to break down and drain poorly (usually after 2 to 3 years). It is best to repot: 1) just before new roots sprout from the rhizome, 2) after flowering, or 3) in the springtime. Mature cattleyas are usually potted in medium-grade potting material; seedlings in fine-grade. Until a plant has six mature pseudobulbs, it generally should be put into a larger pot and not divided. If dividing a plant, 3 to 5 bulbs per division are required. Select a pot that will allow for 2 to 3 years of growth before crowding the pot. Place a small cone of potting material in the bottom of the pot, cut off any rotton roots, and spread the firm, live roots over the cone. Fill the pot with medium, working it around the roots. Pack firmly; stake if necessary. Keep the plant humid, shaded and dry at the roots for awhile to promote new root growth. A vitamin B1 solution may help re-establish plants quickly.

ca4 Top

References

Admirers of cattleyas have penned dozens of articles and books to share information on these showy orchids. With a modicum of effort, it's easy to start your own library of cattleya books that will equip you with the skills ne cessary to succeed with these dynamic New World Orchids.


The Brazilian Bifoliate Cattleyas and Their Color Varieties,
by J. A. Fowlie (BK 604) 1977.

This thorough examination of 18 species and their forms provides insight into the plants' distribution patterns, descriptions, synonyms, history and more. Numerous photographs and color illustrations by Mrs. Rosalie Roth reveal the diversity of col or and shape to be found within this group that includes the popular Cattleya bicolor, Cattleya amethystoglossa and Cattleya loddigesii.

* Hardcover
* 132 pages
* $60.00



Cattleya, Part I:
The Brazilian Bifoliate Cattleyas,
by Guido Braem (BK 6026) Undated.


After introducing readers to the bifoliate cattleyas of Brazil, the author describes 21 species in detail. Text in English and German with a list of synonyms. Many color photographs and drawings.

* Softcover
* 94 pages
* $30.00

Cattleya, Part II: The Unifoliate Cattleyas, by Guido J. Braem (BK 6027) 1986. Treatment of 19 unifoliate cattleyas, following the same format as BK 6026. Text in English and German, with a list of synonyms and flowering periods. Many color phot ographs and drawings.

* Softcover
* 96 pages
* $32.00


C arl Withner, PhD, is writing a six-volume set devoted to cattleyas and their relatives that is being printed by Oregon-based Timber Press. The first volume, The Cattleyas, set the tone for these informative guides that provide botanical and horticultural information in language that's possible for even an average grower to understand. Plenty of color photographs should whet the appetite for anyone who loves the showy blooms of these robust orchids.

The Cattleyas and Their Relatives --
Vol. 1, The Cattleyas,
by Carl L. Withner (BK 611) 1988.

A popular monograph of bifoliate and unifoliate Cattleya species with 79 color photos, it follows the same format as the author's book on Laelia species (BK 652).

* Hardcover
* 150 pages
* $39.95


The Cattleyas and Their Relatives --
Vol. 2, Laelia,
by Carl L. Withner (BK 652) 1990.

The successor to the very popular and authoritative volume on cattleyas (BK 611), this monographic volume devoted to laelias is as complete and definitive as we could hope.

* Hardover
* 87 color photos
* 160 pages
* $39.95

The Cattleyas and Their Relatives --
Vol. 3, Schomburgkia, Sophronitis, and Other South American Genera,
by Carl L. Withner (BK 652a) 1993.

This monograph complements the author's earlier books on cattleyas (BK 611) and laelias (BK 652). Thoroug h discussions and descriptions are provided for Schomburgkia and Sophronitis plus lesser-known genera, such as Isabelia, Loefgrenianthus, Pinelia, Pygmaeorchis and Renata. A fantastic resource with unique perspectives from a master plantsman. Hardcover. 87 color photographs, some line drawings. 196 pages. $39.95



Laelieas de Mexico,
by Federico Halbinger (BK 699)1993.

Written in Spanish, this monograph treats 11 species and one subspecies of Laelia native to Mexico. Synonyms, etymology, common names, history, identification notes, distribution, habitat, flowering season and conservation status are given for all species, which are illustrated with a full-page color plate and one or two color photographs.

* Softcover
* 49 color photographs, distribution maps
* 71 pages $35.00

Laeliinae Intergenerics,
by W. W. Goodale Moir and May Moir (BK 512) 1982.

W. W. Goodale Moir and May Moir, pioneers in intergeneric hybridization, discuss all natural and hybrid genera in the Cattleya subtribe registered until 1982. Fo r each hybrid genus, the registration date, frank evaluation of the cross and recommendations for future breeding efforts are all discussed. Cattleya lovers and hybridizers alike should own this book as well as others in the series.

* Softcover
* 6 2 pages
* $12.00



One-Stop Reference Books:
Cattleya (BK 150)

Prepared in 1993 by the American Orchid Society, this volume is devoted to Brassavola, Cattleya, Epidendrum (including Encyclia) and Laelia plus 111 intergeneric hybrid genera.

This Cattleya One-Stop Reference Book is one of several in a series of softcover, spiral-bound volumes that list orchid hybrids registered with The Royal Horticultural Society between 1856 and 1991, and all AOS awards granted from 1932 through 1991. Der ived from the RHS Orchid Database and the AOS Awards Database, these authoritative references are of value to judges, hybridizers, commercial growers and anyone else interested in parentage of hybrids and awards granted to orchids by the American Orchid Society. The hybrid data is compiled in the familiar Sander's one-table format, which offers an efficient way to research family tree and registration data. These research references do not include information on how to grow, propagate or breed orchids. Instead, they list orchid names of use to hybridizers, judges and others wishing to know the parentage of orchid hybrids.

* 1,700 pages
* $100.00

You Can Grow Cattleya Orchids,
by Mary Noble (BK 104) Edition II, 1991.

A paperback companion to the author's other book in the series, this one focuses on the Cattleya Alliance.

* Softcover
* 100 pages
* $12.95



ca3

ca5

ca2

ca1







http://www.sunshinethailand.com/page/6

C

reference inside plant and orchid ...link here
http://www.aspirationlaw.com/

วันศุกร์ที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

TTIME FOR CHANGE WITH BETTER PROFIT ..BENEFIT...DIGNITY AND INCOME....

















TIME FOR CHANGE WITH BETTER PROFIT ..BENEFIT...DIGNITY AND INCOME....

HOW TO RENEW LAWYER PROCEDURE LAW...????ระ

TIME FOR LAWYER PROCEDURE LAW IN YEAR 2010???
พระราชบัญญัติทนายความ ปี 2553 ควรสังคายนาได้หรือยัง

lawyer ravin and sugar go to future....

พระราชบัญญัติ

ทนายความ

พ.ศ. ๒๕๒๘

----------

ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร.

ให้ไว้ ณ วันที่ ๑๐ กันยายน พ.ศ. ๒๕๒๘

เป็นปีที่ ๔๐ ในรัชกาลปัจจุบัน



พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้า ฯ ให้ประกาศว่า



โดยที่เป็นการสมควรปรับปรุงกฎหมายว่าด้วยทนายความ และให้มีกฎหมายว่าด้วยการช่วยเหลือประชาชน

ทางกฎหมาย



จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้ตราพระราชบัญญัติขึ้นไว้โดยคำแนะนำ และยินยอมของรัฐสภา ดังต่อไปนี้



มาตรา ๑ พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า “พระราชบัญญัติทนายความ พ.ศ.๒๕๒๘”



มาตรา ๒ พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนดเก้าสิบวันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็น

ต้นไป



มาตรา ๓ ให้ยกเลิกพระราชบัญญัติทนายความ พ.ศ.๒๕๐๘ และพระราชบัญญัติทนายความ (ฉบับที่ ๒)

พ.ศ.๒๕๑๔

บรรดาบทกฎหมาย กฎ และข้อบังคับอื่นในส่วนที่มีบัญญัติไว้แล้วในพระราชบัญญัตินี้หรือซึ่งขัดหรือแย้งกับ

บทแห่งพระราชบัญญัตินี้ ให้ใช้พระราชบัญญัตินี้แทน



มาตรา ๔ ในพระราชบัญญัตินี้

“ทนายความ” หมายความว่า ผู้ที่สภาทนายความได้รับจดทะเบียนและออกใบอนุญาตให้เป็นทนายความ

“สภานายกพิเศษ” หมายความว่า สภานายกพิเศษแห่งสภาทนายความ

“นายก” หมายความว่า นายกสภาทนายความ

“กรรมการ” หมายความว่า กรรมการสภาทนายความ

“คณะกรรมการ” หมายความว่า คณะกรรมการสภาทนายความ

“สมาชิก” หมายความว่า สมาชิกสภาทนายความ

“ข้อบังคับ” หมายความว่า ข้อบังคับสภาทนายความ

“ใบอนุญาต” หมายความว่า ใบอนุญาตให้เป็นทนายความ








“รัฐมนตรี” หมายความว่า รัฐมนตรีผู้รักษาการตามพระราชบัญญัตินี้



มาตรา ๕ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมรักษาการตามพระราชบัญญัตินี้และให้มีอำนาจออก

กฎกระทรวงกำหนดค่าธรรมเนียมไม่เกินอัตราท้ายพระราชบัญญัตินี้และกำหนดกิจการอื่นเพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้

กฎกระทรวงนั้น เมื่อได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว ให้ใช้บังคับได้



หมวด ๑

สภาทนายความ

---------



มาตรา ๖ ให้มีสภาขึ้นสภาหนึ่งเรียกว่า “สภาทนายความ” ประกอบด้วยคณะกรรมการสภาทนายความและ

สมาชิกสภาทนายความ มีวัตถุประสงค์และอำนาจหน้าที่ตามที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัตินี้

ให้สภาทนายความเป็นนิติบุคคล



มาตรา ๗ สภาทนายความมีวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้

(๑) ส่งเสริมการศึกษาและการประกอบวิชาชีพทนายความ

(๒) ควบคุมมรรยาทของทนายความ

(๓) ส่งเสริมความสามัคคีและผดุงเกียรติของสมาชิกสภาทนายความ

(๔) ส่งเสริมและจัดสวัสดิการให้แก่สมาชิกสภาทนายความ

(๕) ส่งเสริม ช่วยเหลือ แนะนำ เผยแพร่ และให้การศึกษาแก่ประชาชนในเรื่องที่เกี่ยวกับกฎหมาย



มาตรา ๘ สภาทนายความมีอำนาจหน้าที่ดังต่อไปนี้

(๑) จดทะเบียนและออกใบอนุญาตตามพระราชบัญญัตินี้

(๒) ดำเนินการให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของสภาทนายความและตามอำนาจหน้าที่ซึ่งกำหนดไว้ใน

พระราชบัญญัตินี้



มาตรา ๙ สภาทนายความอาจมีรายได้ดังต่อไปนี้

(๑) ค่าจดทะเบียน ค่าบำรุงและค่าธรรมเนียมตามพระราชบัญญัตินี้

(๒) เงินอุดหนุนจากงบประมาณแผ่นดิน

(๓) รายได้จากทรัพย์สินหรือกิจการอื่น

(๔) ทรัพย์สินที่มีผู้บริจาคให้เพื่อดำเนินการตามวัตถุประสงค์



มาตรา ๑๐ ให้รัฐมนตรีดำรงตำแหน่งสภานายกพิเศษแห่งสภาทนายความและมีอำนาจหน้าที่ตาม

พระราชบัญญัตินี้






หมวด ๒

สมาชิกสภาทนายความ

---------



มาตรา ๑๑ สมาชิกสภาทนายความได้แก่ ทนายความตามพระราชบัญญัตินี้



มาตรา ๑๒ สิทธิและหน้าที่ของสมาชิกสภาทนายความ มีดังนี้

(๑) แสดงความเห็นเป็นหนังสือเกี่ยวกับการปฏิบัติตามวัตถุประสงค์หรืออำนาจหน้าที่ของสภาทนายความ

โดยส่งไปยังคณะกรรมการสภาทนายความและในกรณีที่สมาชิกร่วมกันตั้งแต่ห้าสิบคนขึ้นไป เสนอให้คณะกรรมการสภา
ทนายความพิจารณาเรื่องใดที่เกี่ยวกับการปฏิบัติตามวัตถุประสงค์หรืออำนาจหน้าที่ของสภาทนายความ คณะกรรมการสภา
ทนายความต้องพิจารณาและแจ้งผลการพิจารณาให้ผู้เสนอทราบโดยมิชักช้า

(๒) ซักถามเกี่ยวกับการดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการหรือเกี่ยวกับการบริหารงานทั่วไป

ของสภาทนายความ ในการประชุมใหญ่ของสภาทนายความ

(๓) เลือกหรือรับเลือกตั้งเป็นนายกหรือกรรมการสภาทนายความ

(๔) ผดุงไว้ซึ่งเกียรติศักดิ์แห่งวิชาชีพและปฏิบัติตนตามบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัตินี้



มาตรา ๑๓ สมาชิกภาพของสมาชิกย่อมสิ้นสุดลงเมื่อ

(๑) ตาย

(๒) ขาดจากการเป็นทนายความตามมาตรา ๔๔



หมวด ๓

คณะกรรมการสภาทนายความ

----------



มาตรา ๑๔ ให้มีคณะกรรมการคณะหนึ่งเรียกว่า “คณะกรรมการสภาทนายความ” ประกอบด้วยผู้แทน

กระทรวงยุติธรรมหนึ่งคนและผู้แทนเนติบัณฑิตยสภาหนึ่งคน เป็นกรรมการ และนายกและกรรมการอื่นอีกไม่เกินยี่สิบสามคน
ซึ่งสมาชิกสภาทนายความทั่วประเทศได้เลือกตั้งขึ้นโดยกรรมการดังกล่าวไม่น้อยกว่าเก้าคนจะต้องมีสำนักงานประจำอยู่ตาม
ภาคต่าง ๆตามพระราชกฤษฎีกาตั้งอธิบดีผู้พิพากษาภาค ภาคละหนึ่งคน



มาตรา ๑๕ ให้นายกแต่งตั้งกรรมการอื่นตามมาตรา ๑๔ เป็นอุปนายกเลขาธิการ นายทะเบียน เหรัญญิก

สวัสดิการ ประชาสัมพันธ์และตำแหน่งอื่นตามความเหมาะสมด้วยความเห็นชอบของคณะกรรมการโดยให้มีอำนาจหน้าที่
ตามที่กำหนดในข้อบังคับ



มาตรา ๑๖ ให้นายกและกรรมการที่ได้รับเลือกตั้งมีวาระการดำรงตำแหน่งสามปี แต่จะดำรงตำแหน่งเกิน

กว่าสองวาระติดต่อกันมิได้

มาตรา ๑๗ ทนายความที่ได้จดทะเบียนและรับใบอนุญาตก่อนวันเลือกตั้งนายก หรือกรรมการ ไม่น้อยกว่า




สามสิบวันมีสิทธิเลือกตั้งนายกและหรือกรรมการ

ทนายความผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นนายกหรือกรรมการจะต้องเป็นผู้ซึ่งได้จดทะเบียน และรับใบอนุญาต

มาแล้วรวมกันไม่น้อยกว่าห้าปีก่อนวันเลือกตั้งนายกหรือกรรมการ



มาตรา ๑๘ การเลือกตั้งนายกและกรรมการตามมาตรา ๑๔ ทนายความต้องมาใช้สิทธิด้วยตนเองโดยการ

ลงคะแนนลับ

ทนายความที่มีสำนักงานอยู่ ณ จังหวัดใด ให้ออกเสียงลงคะแนนที่จังหวัดนั้นหรือจะไปออกเสียงลงคะแนน

ในที่ประชุมใหญ่ก็ได้

หลักเกณฑ์และวิธีการเลือกตั้งนายกและกรรมการ ให้เป็นไปตามที่กำหนดในข้อบังคับ



มาตรา ๑๙ ให้คณะกรรมการมรรยาททนายความมีอำนาจหน้าที่ควบคุมการเลือกตั้งนายกและกรรมการให้

เป็นไปตามกฎหมายและข้อบังคับ



มาตรา ๒๐ เมื่อมีพฤติการณ์แสดงให้เห็นว่าคณะกรรมการ นายก หรือกรรมการคนใดคนหนึ่งกระทำผิด

วัตถุประสงค์ของสภาทนายความหรือกระทำการอันเป็นการเสื่อมเสียอย่างร้ายแรงแก่สภาทนายความ ให้รัฐมนตรีมีอำนาจสั่ง
ให้คณะกรรมการ นายกหรือกรรมการคนนั้นออกจากตำแหน่งได้

ในกรณีที่รัฐมนตรีจะมีคำสั่งตามวรรคหนึ่ง ให้รัฐมนตรีแต่งตั้งผู้แทนกระทรวงยุติธรรมหนึ่งคน ผู้แทนเนติ

บัณฑิตยสภาซึ่งเป็นข้าราชการอัยการหนึ่งคนและซึ่งเป็นทนายความหนึ่งคน กับทนายความอื่นอีกสี่คนเป็นคณะกรรมการ
สอบสวนคณะกรรมการสอบสวนต้องรีบทำการสอบสวนให้แล้วเสร็จโดยเร็ว แล้วเสนอสำนวนการสอบสวนพร้อมทั้งความเห็น
ต่อรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาสั่งการ

คำสั่งของรัฐมนตรีให้เป็นที่สุด



มาตรา ๒๑ นอกจากการพ้นจากตำแหน่งตามวาระ นายกหรือกรรมการซึ่งได้รับเลือกตั้งพ้นจากตำแหน่ง
เป็นการเฉพาะตัว เมื่อ

(๑) ตาย

(๒) ลาออก

(๓) ขาดคุณสมบัติของผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นนายกหรือกรรมการตามมาตรา ๑๗ วรรคสอง

(๔) รัฐมนตรีมีคำสั่งให้ออกจากตำแหน่งเป็นการเฉพาะตัวตามมาตรา ๒๐

(๕) ขาดจากการเป็นทนายความตามมาตรา ๔๔

(๖) เป็นผู้มีกายทุพพลภาพจนไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ หรือวิกลจริตหรือจิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ

(๗) ต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้เป็นบุคคลล้มละลาย หรือ

(๘) ต้องโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก



มาตรา ๒๒ ในกรณีที่คณะกรรมการทั้งคณะพ้นจากตำแหน่งและยังไม่มีการเลือกตั้งคณะกรรมการใหม่ ให้

คณะกรรมการนั้นปฏิบัติหน้าที่ไปพลางก่อนจนกว่าคณะกรรมการใหม่จะเข้ารับหน้าที่เว้นแต่กรณีที่รัฐมนตรีมีคำสั่งให้พ้นจาก






ตำแหน่งตามมาตรา ๒๐ ให้คณะกรรมการมรรยาททนายความปฏิบัติหน้าที่คณะกรรมการที่พ้นจากตำแหน่งนั้นไปพลางก่อน
จนกว่าคณะกรรมการใหม่จะเข้ารับหน้าที่โดยให้ประธานคณะกรรมการมรรยาททนายความปฏิบัติหน้าที่นายก

ในการปฏิบัติหน้าที่ไปพลางก่อนระหว่างที่คณะกรรมการใหม่ยังไม่ได้เข้ารับหน้าที่คณะกรรมการที่พ้นจาก

ตำแหน่งหรือคณะกรรมการมรรยาททนายความ แล้วแต่กรณี มีอำนาจหน้าที่ตามมาตรา ๒๗ (๑) เฉพาะกิจการที่มีลักษณะ
ต่อเนื่องและเท่าที่จำเป็นเพื่อให้งานประจำของคณะกรรมการดำเนินไปได้โดยไม่เป็นที่เสียหายหรือหยุดชะงัก กับจัดการ
เลือกตั้งคณะกรรมการใหม่ภายในหกสิบวันนับแต่วันที่คณะกรรมการเดิมนั้นพ้นจากตำแหน่ง โดยจะแต่งตั้งคณะอนุกรรมการ
ขึ้น เพื่อช่วยเหลือจัดการเลือกตั้งดังกล่าวด้วยก็ได้



มาตรา ๒๓ เมื่อนายกหรือกรรมการซึ่งได้รับเลือกตั้งพ้นจากตำแหน่งก่อนวาระให้เลือกตั้งนายกหรือ

กรรมการแทนตำแหน่งที่ว่างภายในหกสิบวันนับแต่วันที่ตำแหน่งนายกหรือกรรมการนั้นว่างลง เว้นแต่วาระที่เหลืออยู่ไม่ถึงหนึ่ง
ร้อยแปดสิบวัน

ให้ผู้ซึ่งเป็นนายกหรือกรรมการซึ่งได้รับเลือกตั้งแทนนั้น อยู่ในตำแหน่งตามวาระของนายกหรือกรรมการซึ่ง

ตนแทน

มาตรา ๒๔ การประชุมคณะกรรมการต้องมีกรรมการมาประชุมไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของกรรมการทั้งหมด

จึงจะเป็นองค์ประชุม และให้นายกหรือผู้รักษาการแทนเป็นประธานในที่ประชุม

มติของที่ประชุมให้ถือเสียงข้างมาก กรรมการคนหนึ่งมีเสียงหนึ่งในการลงคะแนนถ้าคะแนนเสียงเท่ากัน ให้

ประธานในที่ประชุมออกเสียงเพิ่มขึ้นอีกเสียงหนึ่งเป็นเสียงชี้ขาด



มาตรา ๒๕ ในกรณีที่นายกพ้นจากตำแหน่งก่อนวาระ หรือนายกไม่อยู่หรือไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ให้

อุปนายกเป็นผู้รักษาการแทน ถ้าอุปนายกพ้นจากตำแหน่งก่อนวาระหรืออุปนายกไม่อยู่หรือไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ ให้
คณะกรรมการเลือกกรรมการคนใดคนหนึ่งเป็นผู้รักษาการแทน



มาตรา ๒๖ สภานายกพิเศษหรือผู้แทนจะเข้าฟังการประชุมและชี้แจงแสดงความเห็นในที่ประชุม

คณะกรรมการ หรือจะส่งความเห็นเป็นหนังสือไปยังสภาทนายความในเรื่องใด ๆ ก็ได้แต่ไม่มีสิทธิออกเสียงลงคะแนน



มาตรา ๒๗ ให้คณะกรรมการมีอำนาจหน้าที่ดังต่อไปนี้

(๑) บริหารกิจการของสภาทนายความตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดในมาตรา ๗

(๒) แต่งตั้งคณะอนุกรรมการ เพื่อทำกิจการหรือพิจารณาเรื่องต่าง ๆ อันอยู่ในขอบเขตแห่งวัตถุประสงค์ของ

สภาทนายความ เว้นแต่กิจการซึ่งมีลักษณะหรือสภาพที่ไม่อาจมอบหมายให้กระทำการแทนกันได้

(๓) ออกข้อบังคับสภาทนายความเกี่ยวกับเรื่องต่าง ๆ ตามที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัตินี้ และข้อบังคับ

ว่าด้วย










(ก) การเป็นสมาชิกและการขาดจากสมาชิกของสภาทนายความ

(ข) การเรียกเก็บและชำระค่าบำรุงและค่าธรรมเนียมต่าง ๆ

(ค) การแจ้งย้ายสำนักงานของทนายความ

(ง) การประชุมคณะกรรมการและคณะอนุกรรมการ

(จ) เรื่องอื่น ๆ อันอยู่ในขอบเขตแห่งวัตถุประสงค์ของสภา ทนายความหรืออยู่ในอำนาจหน้าที่ของ

สภาทนายความตามกฎหมายอื่นรวมทั้งการ แต่งตั้ง การบังคับบัญชาการรักษาวินัย และการออกจากตำแหน่งของพนักงาน
สภาทนายความ



มาตรา ๒๘ ข้อบังคับนั้นเมื่อได้รับความเห็นชอบจากสภานายกพิเศษและได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา

แล้ว ให้ใช้บังคับได้



มาตรา ๒๙ ให้นายกเสนอร่างข้อบังคับต่อสภานายกพิเศษโดยไม่ชักช้าสภานายกพิเศษอาจยับยั้งร่าง

ข้อบังคับนั้นได้พร้อมทั้งแสดงเหตุผลโดยแจ้งชัด ในกรณีที่มิได้มีการยับยั้งภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับร่างความเห็นชอบ
ในร่างข้อบังคับนั้น



มาตรา ๓๐ ถ้าสภานายกพิเศษยับยั้งร่างข้อบังคับใด ให้คณะกรรมการประชุมพิจารณาอีกครั้งหนึ่งโดย

พิจารณาเหตุผลของสภานายกพิเศษประกอบด้วย ในการประชุมนั้น ถ้ามีเสียงยืนยันถึงสองในสามของจำนวนกรรมการทั้ง
คณะ ให้นายกเสนอร่างข้อบังคับนั้นต่อสภานายกพิเศษอีกครั้งหนึ่ง ถ้าสภานายกพิเศษไม่ให้ความเห็นชอบในร่างข้อบังคับ
หรือไม่คืนร่างข้อบังคับนั้นมาภายในสิบห้าวันนับแต่วันที่ได้รับร่างข้อบังคับที่นายกเสนอ ให้นายกดำเนินการประกาศใช้
ข้อบังคับนั้นในราชกิจจานุเบกษาต่อไปได้



มาตรา ๓๑ ทนายความไม่น้อยกว่าหนึ่งร้อยคนมีสิทธิเสนอขอให้คณะกรรมการพิจารณาแก้ไขข้อบังคับได้



มาตรา ๓๒ ในกิจการที่เกี่ยวกับบุคคลภายนอก ให้นายกมีอำนาจกระทำการแทนสภาทนายความ แต่นายก

จะมอบหมายเป็นหนังสือให้กรรมการอื่นกระทำการแทนตนเฉพาะในกิจการใดก็ได้

หมวด ๔

การขอจดทะเบียนและรับใบอนุญาตให้เป็นทนายความ

-------------------------------



มาตรา ๓๓ ห้ามมิให้ผู้ซึ่งไม่ได้จดทะเบียนและรับใบอนุญาต หรือผู้ซึ่งขาดจากการเป็นทนายความหรือ

ต้องห้ามทำการเป็นทนายความว่าความในศาล หรือแต่งฟ้อง คำให้การฟ้องอุทธรณ์ แก้อุทธรณ์ ฟ้องฎีกา แก้ฎีกา คำร้อง หรือ
คำแถลงอันเกี่ยวแก่การพิจารณาคดีในศาลให้แก่บุคคลอื่น ทั้งนี้เว้นแต่จะได้กระทำในฐานะเป็นข้าราชการผู้ปฏิบัติการตาม
หน้าที่หรือเป็นเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานของรัฐ องค์การของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจ ผู้ปฏิบัติการตามหน้าที่หรือมี

อำนาจหน้าที่กระทำได้โดยบทบัญญัติแห่งกฎหมายว่าด้วยวิธีพิจารณาความหรือกฎหมายอื่น




มาตรา ๓๔ การขอจดทะเบียนและรับใบอนุญาต การรับจดทะเบียนและออกใบอนุญาตการต่ออายุ

ใบอนุญาต และการขอบอกเลิกจากการเป็นทนายความ ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดในกฎกระทรวง



มาตรา ๓๕ ผู้ขอจดทะเบียนและรับใบอนุญาตต้องมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้

(๑) มีสัญชาติไทย

(๒) อายุไม่ต่ำกว่ายี่สิบปีบริบูรณ์ในวันยื่นคำขอจดทะเบียนและรับใบอนุญาต

(๓) สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีหรืออนุปริญญาทางนิติศาสตร์หรือประกาศนียบัตรในวิชานิติศาสตร์

ซึ่งเทียบได้ไม่ต่ำกว่าปริญญาตรีหรืออนุปริญญาจากสถาบันการศึกษาซึ่งสภาทนายความเห็นว่าสถาบันการศึกษานั้นมี
มาตรฐานการศึกษาที่ผู้ได้รับปริญญาตรีหรืออนุปริญญาหรือประกาศนียบัตรควรเป็นทนายความได้ และเป็นสมาชิกแห่งเนติ
บัณฑิตยสภา

(๔) ไม่เป็นผู้มีความประพฤติเสื่อมเสียหรือบกพร่องในศีลธรรมอันดีและไม่เป็นผู้ได้กระทำการใดซึ่งแสดงให้

เห็นว่าไม่น่าไว้วางใจในความซื่อสัตย์สุจริต

(๕) ไม่อยู่ในระหว่างต้องโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก

(๖) ไม่เคยต้องโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุกในคดีที่คณะกรรมการเห็นว่าจะนำมาซึ่งความ

เสื่อมเสียเกียรติศักดิ์แห่งวิชาชีพ

(๗) ไม่เป็นบุคคลผู้ต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้ล้มละลาย

(๘) ไม่เป็นโรคติดต่อซึ่งเป็นที่รังเกียจแก่สังคม

(๙) ไม่เป็นผู้มีกายพิการหรือจิตบกพร่องอันเป็นเหตุให้เป็นผู้หย่อนสมรรถภาพในการประกอบอาชีพ

ทนายความ

(๑๐) ไม่เป็นข้าราชการหรือพนักงานส่วนท้องถิ่นซึ่งมีเงินเดือนและตำแหน่งประจำเว้นแต่ข้าราชการ

การเมือง

(๑๑) ไม่เป็นผู้ต้องห้ามมิให้ยื่นคำขอจดทะเบียนและรับใบอนุญาตตามมาตรา ๗๑



มาตรา ๓๖ ภายใต้บังคับมาตรา ๓๘ เมื่อคณะกรรมการได้รับคำขอจดทะเบียนและรับใบอนุญาตแล้ว เห็น

ว่าผู้ยื่นคำขอมีคุณสมบัติตามมาตรา ๓๕ ให้คณะกรรมการพิจารณารับจดทะเบียนและออกใบอนุญาตให้ผู้ยื่นคำขอโดยเร็ว

ในกรณีที่คณะกรรมการไม่รับจดทะเบียนและออกใบอนุญาตให้แก่ผู้ยื่นคำขอคณะกรรมการต้องแสดง

เหตุผลของการไม่รับจดทะเบียนและออกใบอนุญาตดังกล่าวไว้โดยชัดแจ้งในกรณีเช่นนี้ผู้ยื่นคำขอมีสิทธิอุทธรณ์การไม่รับจด
ทะเบียนและออกใบอนุญาตของสภาทนายความต่อสภานายกพิเศษได้ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดในข้อบังคับ

คำวินิจฉัยของสภานายกพิเศษให้เป็นที่สุด



มาตรา ๓๗ ให้ผู้ได้จดทะเบียนและรับใบอนุญาตเป็นทนายความหรือผู้ได้รับการต่ออายุใบอนุญาตแล้วเป็น

สมาชิกสภาทนายความ










มาตรา ๓๘ ในกรณีที่ผู้ยื่นคำขอจดทะเบียนและรับใบอนุญาตเป็นทนายความเป็นผู้ที่ไม่เคยเป็นทนายความ

หรือไม่เคยดำรงตำแหน่งเป็นผู้พิพากษา ตุลาการศาลทหารพนักงานอัยการ อัยการทหารหรือทนายความตามกฎหมายว่าด้วย
ธรรมนูญศาลทหารมาก่อนคณะกรรมการจะรับจดทะเบียนและออกใบอนุญาตให้ก็ต่อเมื่อผู้ยื่นคำขอได้ผ่านการฝึกอบรม
มรรยาททนายความ หลักปฏิบัติเบื้องต้นในการว่าความ และการประกอบวิชาชีพทางกฎหมายแล้ว เว้นแต่ผู้ยื่นคำขอจะได้ผ่าน
การฝึกหัดงานในสำนักงานทนายความมาแล้วไม่น้อยกว่าหนึ่งปี

เมื่อเห็นเป็นการสมควร คณะกรรมการจะสั่งยกเว้นให้ผู้ยื่นคำขอจดทะเบียนและรับใบอนุญาตซึ่งมี

คุณสมบัติตามที่กำหนดในข้อบังคับไม่ต้องเข้ารับการฝึกอบรมตามวรรคหนึ่งก็ได้

การฝึกอบรมตามวรรคหนึ่งให้เป็นไปตามหลักสูตร วิธีการ และระยะเวลาที่กำหนดในข้อบังคับ



มาตรา ๓๙ ใบอนุญาตให้มีอายุใช้ได้เป็นเวลาสองปีนับแต่วันออกใบอนุญาตเว้นแต่ใบอนุญาตประเภทที่

เสียค่าธรรมเนียมในอัตราตลอดชีพให้มีอายุตลอดชีพของผู้ได้รับใบอนุญาต

ทนายความผู้ใดที่ใบอนุญาตมีอายุใช้ได้เป็นเวลาสองปี หากประสงค์จะทำการเป็นทนายความต่อไป ให้ยื่น

คำขอต่ออายุใบอนุญาตภายในเก้าสิบวันก่อนวันที่ใบอนุญาตสิ้นอายุการต่ออายุใบอนุญาตคราวหนึ่งให้ใช้ได้สองปีนับแต่วันที่
ใบอนุญาตสิ้นอายุ

ในกรณีที่คณะกรรมการไม่ต่ออายุใบอนุญาตให้ ให้นำบทบัญญัติมาตรา ๓๖วรรคสองมาใช้บังคับโดย

อนุโลม และคำวินิจฉัยอุทธรณ์ของสภานายกพิเศษให้เป็นที่สุด



มาตรา ๔๐ ทนายความที่ขาดต่ออายุใบอนุญาตตามมาตรา ๓๙ วรรคสอง มีสิทธิได้รับการต่ออายุ

ใบอนุญาต หากได้ยื่นคำขอต่ออายุใบอนุญาตภายในเวลาไม่เกินหกสิบวันนับแต่วันที่ใบอนุญาตสิ้นอายุและยอมชำระเงิน
ค่าธรรมเนียมเพิ่มร้อยละยี่สิบของค่าธรรมเนียมสำหรับใบอนุญาตนั้น



มาตรา ๔๑ ใบอนุญาตให้เป็นไปตามแบบที่กำหนดในข้อบังคับโดยอย่างน้อยต้องมีชื่อวัน เดือน ปี เกิด ที่อยู่

ตามทะเบียนบ้าน ที่ตั้งสำนักงาน รูปถ่ายของผู้ถือใบอนุญาต เลขหมายใบอนุญาต วันออกใบอนุญาต และวันที่ใบอนุญาตสิ้น
อายุ

ในกรณีที่ใบอนุญาตสูญหายหรือชำรุดเสียหายในสาระสำคัญ ให้ผู้รับใบอนุญาตยื่นคำขอรับใบแทน

ใบอนุญาตภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ทราบการสูญหายหรือชำรุดเสียหาย



มาตรา ๔๒ ทนายความต้องมีสำนักงานที่จดทะเบียนเพียงแห่งเดียวตามที่ระบุไว้ในคำขอจดทะเบียนและ

รับใบอนุญาต หรือตามที่ได้แจ้งย้ายสำนักงานต่อนายทะเบียนทนายความในภายหลัง

ให้นายทะเบียนทนายความจดแจ้งสำนักงานทนายความตามวรรคหนึ่งไว้ในทะเบียนทนายความ














มาตรา ๔๓ เมื่อปรากฏต่อคณะกรรมการว่า ทนายความผู้ใดเป็นผู้ขาดคุณสมบัติตามมาตรา ๓๕ ไม่ว่าจะ

ขาดคุณสมบัติก่อนหรือหลังจากจดทะเบียนและรับใบอนุญาตให้ทนายความผู้นั้นพ้นสภาพการเป็นทนายความ และให้
คณะกรรมการจำหน่ายชื่อทนายความผู้นั้นออกจากทะเบียนทนายความ

บทบัญญัติในวรรคหนึ่งมิให้ใช้บังคับแก่ทนายความผู้ต้องโทษจำคุกตามคำพิพากษาถึงที่สุดหลังจาก

ทนายความผู้นั้นได้จดทะเบียนและรับใบอนุญาตแล้ว

เมื่อมีการจำหน่ายชื่อทนายความออกจากทะเบียนทนายความตามวรรคหนึ่งให้นำบทบัญญัติมาตรา ๓๖

วรรคสองมาใช้บังคับโดยอนุโลมและคำวินิจฉัยอุทธรณ์ของสภานายกพิเศษให้เป็นที่สุด

ให้นำบทบัญญัติมาตรา ๗๐ มาใช้บังคับแก่การจำหน่ายชื่อทนายความออกจากทะเบียนทนายความตาม

วรรคหนึ่งโดยอนุโลม



มาตรา ๔๔ ทนายความขาดจากการเป็นทนายความ เมื่อ

(๑) ตาย

(๒) ขอบอกเลิกจากการเป็นทนายความ

(๓) ขาดต่อใบอนุญาตตามมาตรา ๓๙ วรรคสอง

(๔) ถูกจำหน่ายชื่อออกจากทะเบียนทนายความตามมาตรา ๔๓ หรือ

(๕) ถูกลบชื่อออกจากทะเบียนทนายความตามมาตรา ๖๖ มาตรา ๖๗ มาตรา ๖๘ หรือมาตรา ๖๙



หมวด ๕

การประชุมใหญ่ของสภาทนายความ

-------------------------



มาตรา ๔๕ การประชุมใหญ่ของสภาทนายความ ได้แก่การประชุมใหญ่สามัญประจำปี และการประชุม

ใหญ่วิสามัญ



มาตรา ๔๖ คณะกรรมการต้องจัดให้มีการประชุมใหญ่สามัญประจำปี ปีละหนึ่งครั้งภายในเดือนเมษายน

ของทุกปี



มาตรา ๔๗ เมื่อมีเหตุอันสมควร คณะกรรมการจะจัดให้มีการประชุมใหญ่วิสามัญเมื่อใดก็ได้

เมื่อสมาชิกมีจำนวนรวมกันไม่น้อยกว่าหนึ่งร้อยคนเข้าชื่อร้องขอเป็นหนังสือให้มีการประชุมใหญ่วิสามัญ

คณะกรรมการต้องจัดให้มีการประชุมใหญ่วิสามัญภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับคำร้องขอ เว้นแต่คณะกรรมการเห็นว่า
เรื่องที่ขอให้มีการประชุมใหญ่วิสามัญเพื่อพิจารณานั้นเป็นเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับสภาทนายความหรือไม่มีเหตุอันสมควรที่จะได้รับ
การพิจารณาโดยที่ประชุมใหญ่ของสภาทนายความ

หนังสือร้องขอตามวรรคสองให้ระบุโดยชัดแจ้งว่าประสงค์ให้เรียกประชุมเพื่อพิจารณาเรื่องใดและด้วยเหตุ

อันสมควรอย่างใด






มาตรา ๔๘ ในกรณีที่คณะกรรมการไม่จัดให้มีการประชุมใหญ่วิสามัญเมื่อคณะกรรมการได้รับคำร้องขอ

ตามมาตรา ๔๗ วรรคสอง คณะกรรมการต้องแจ้งเหตุผลของการไม่จัดให้มีการประชุมใหญ่วิสามัญดังกล่าวโดยชัดแจ้งไปยัง
สมาชิกคนใดคนหนึ่งซึ่งร่วมเข้าชื่อร้องขอภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับคำร้องขอ ในกรณีเช่นนี้สมาชิกผู้ร่วมเข้าชื่อร้องขอ
นั้นทั้งหมดมีสิทธิร่วมเข้าชื่อคัดค้านการไม่จัดการประชุมใหญ่วิสามัญนั้นต่อสภานายกพิเศษได้ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่
กำหนดในข้อบังคับ

คำวินิจฉัยของสภานายกพิเศษให้เป็นที่สุด และในกรณีที่สภานายกพิเศษมีคำวินิจฉัยเห็นชอบด้วยกับ

คำคัดค้านตามวรรคหนึ่ง ให้คณะกรรมการจัดให้มีการประชุมใหญ่วิสามัญภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำวินิจฉัยจาก
สภานายกพิเศษ



มาตรา ๔๙ ในการประชุมใหญ่ของสภาทนายความ ต้องมีสมาชิกเข้าร่วมประชุมด้วยตนเองไม่น้อยกว่าสาม

รอยคนจึงจะเป็นองค์ประชุม ถ้าการประชุมคราวใดนายกไม่อยู่ในที่ประชุมหรือไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้ ให้อุปนายกเป็นประธาน
ในที่ประชุม ถ้านายกและอุปนายกไม่อยู่ในที่ประชุมหรือไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้ ให้สมาชิกที่มาประชุมเลือกสมาชิกคนหนึ่งเป็น
ประธานในที่ประชุมเฉพาะการประชุมคราวนั้น

มติของที่ประชุมให้ถือเสียงข้างมาก สมาชิกคนหนึ่งให้มีเสียงหนึ่งในการลงคะแนน ถ้าคะแนนเสียงเท่ากันให้

ประธานในที่ประชุมออกเสียงเพิ่มขึ้นอีกเสียงหนึ่งเป็นเสียงชี้ขาด



มาตรา ๕๐ ภายใต้บังคับของบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัตินี้การประชุมใหญ่ของสภาทนายความให้

เป็นไปตามที่กำหนดในข้อบังคับ



หมวด ๖

มรรยาททนายความ

--------------------



มาตรา ๕๑ ทนายความต้องประพฤติตนตามข้อบังคับว่าด้วยมรรยาททนายความ การกำหนดมรรยาท

ทนายความให้สภาทนายความตราเป็นข้อบังคับ

ทนายความผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามข้อบังคับที่สภาทนายความตราขึ้นตามวรรคหนึ่ง ให้ถือว่า

ทนายความผู้นั้นประพฤติผิดมรรยาททนายความ



มาตรา ๕๒ โทษผิดมรรยาททนายความมี ๓ สถาน คือ

(๑) ภาคทัณฑ์

(๒) ห้ามทำการเป็นทนายความมีกำหนดไม่เกินสามปี หรือ

(๓) ลบชื่อออกจากทะเบียนทนายความ

ในกรณีประพฤติผิดมรรยาททนายความเล็กน้อยและเป็นความผิดครั้งแรกถ้าผู้มีอำนาจสั่งลงโทษตาม

มาตรา ๖๖ มาตรา ๖๗ หรือมาตรา ๖๘ แล้วแต่กรณีเห็นว่ามีเหตุอันควรงดโทษ จะงดโทษให้โดยว่ากล่าวตักเตือน หรือให้ทำ
ทัณฑ์บนเป็นหนังสือไว้ก่อนก็ได้




มาตรา ๕๓ ข้อบังคับว่าด้วยมรรยาททนายความ ต้องประกอบด้วยข้อกำหนดดังต่อไปนี้

(๑) มรรยาทของทนายความต่อศาลและในศาล

(๒) มรรยาทของทนายความต่อตัวความ

(๓) มรรยาทของทนายความต่อทนายความด้วยกัน

(๔) มรรยาทของทนายความต่อประชาชนผู้มีอรรถคดี

(๕) มรรยาทเกี่ยวกับความประพฤติของทนายความ

(๖) การแต่งกายของทนายความ และ

(๗) การปฏิบัติตามคำสั่งของคณะกรรมการมรรยาททนายความคณะกรรมการหรือสภานายกพิเศษ แล้ว

แต่กรณี

หมวด ๗

คณะกรรมการมรรยาททนายความ

-----------------------



มาตรา ๕๔ ให้มีคณะกรรมการมรรยาททนายความประกอบด้วย ประธานกรรมการ รองประธานกรรมการ

และกรรมการมรรยาททนายความอื่นอีกไม่น้อยกว่าเจ็ดคนตามจำนวนที่คณะกรรมการกำหนด

ให้คณะกรรมการแต่งตั้งกรรมการมรรยาททนายความจากทนายความซึ่งมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้

(๑) เป็นทนายความมาแล้วรวมกันไม่น้อยกว่าสิบปี

(๒) ไม่เคยถูกลงโทษฐานประพฤติผิดมรรยาททนายความ หรือถูกจำหน่ายชื่อออกจากทะเบียนทนายความ



มาตรา ๕๕ การแต่งตั้งกรรมการมรรยาททนายความตามมาตรา ๕๔ จะสมบูรณ์ก็ต่อเมื่อได้รับความ

เห็นชอบของสภานายกพิเศษ



มาตรา ๕๖ ให้นายกแจ้งการแต่งตั้งกรรมการมรรยาททนายความตามมาตรา ๕๔ ต่อสภานายกพิเศษ โดย

ไม่ชักช้า ในกรณีที่สภานายกพิเศษไม่แจ้งผลการพิจารณาให้ความเห็นชอบกลับมายังนายกภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับ
แจ้งการแต่งตั้ง ให้ถือว่าสภานายกพิเศษให้ความเห็นชอบในการแต่งตั้งนั้น

ในกรณีที่สภานายกพิเศษแจ้งกลับมายังนายกภายในกำหนดเวลาตามวรรคหนึ่งว่าไม่ให้ความเห็นชอบใน

การแต่งตั้งคณะกรรมการมรรยาททนายความหรือกรรมการมรรยาททนายความคนใดคนหนึ่ง ให้คณะกรรมการพิจารณาการ
แต่งตั้งนั้นใหม่อีกครั้งหนึ่ง ถ้าคณะกรรมการลงมติยืนยันการแต่งตั้งเดิมด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่าสองในสามของจำนวน
กรรมการทั้งคณะ ให้นายกแจ้งการแต่งตั้งนั้นต่อสภานายกพิเศษ ถ้าสภานายกพิเศษไม่ให้ความเห็นชอบหรือไม่แจ้งกลับมา
ภายในสิบห้าวันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งจากนายก ให้นายกดำเนินการแต่งตั้งคณะกรรมการมรรยาททนายความ หรือกรรมการคน
นั้นได้












มาตรา ๕๗ ประธานกรรมการมรรยาททนายความมีอำนาจหน้าที่ควบคุมการพิจารณาคดีมรรยาท

ทนายความให้เป็นไปโดยรวดเร็วและเที่ยงธรรม และมีอำนาจหน้าที่อื่น ๆตามที่กำหนดในพระราชบัญญัตินี้หรือในข้อบังคับ

เมื่อประธานกรรมการมรรยาททนายความไม่อยู่หรือไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ให้รองประธานกรรมการ

มารยาททนายความปฏิบัติหน้าที่แทนประธานกรรมการมรรยาททนายความถ้าประธานกรรมการและรองประธานกรรมการ
มรรยาททนายความไม่อยู่หรือไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ให้กรรมการที่ได้รับมอบหมายเป็นหนังสือจากประธานกรรมการปฏิบัติ
หน้าที่แทนประธานกรรมการมรรยาททนายความ



มาตรา ๕๘ กรรมการมรรยาททนายความมีวาระการดำรงตำแหน่งสามปีและอาจได้รับแต่งตั้งใหม่ได้ แต่จะ

ดำรงตำแหน่งเกินกว่าสองวาระติดต่อกันมิได้

ถ้าตำแหน่งว่างลงก่อนถึงกำหนดวาระ ให้คณะกรรมการดำเนินการ แต่งตั้งซ่อมเว้นแต่วาระการอยู่ใน

ตำแหน่งของกรรมการมรรยาททนายความจะเหลือไม่ถึงเก้าสิบวันคณะกรรมการจะไม่ดำเนินการแต่งตั้งซ่อมก็ได้ และให้นำ
บทบัญญัติมาตรา ๕๕ และมาตรา ๕๖ มาใช้บังคับแก่การแต่งตั้งซ่อมโดยอนุโลม

กรรมการมรรยาททนายความซึ่งได้รับแต่งตั้งซ่อมให้อยู่ในตำแหน่งได้เพียงวาระของผู้ที่ตนแทน



มาตรา ๕๙ ในกรณีที่คณะกรรมการมรรยาททนายความพ้นจากตำแหน่งทั้งคณะและยังไม่มีการแต่งตั้ง

คณะกรรมการมรรยาททนายความใหม่ ให้คณะกรรมการมรรยาททนายความนั้นปฏิบัติหน้าที่ไปพลางก่อน จนกว่า
คณะกรรมการมรรยาททนายความคณะใหม่จะเข้ารับหน้าที่

ให้คณะกรรมการแต่งตั้งกรรมการมรรยาททนายความใหม่ภายในหกสิบวันนับตั้งแต่วันที่คณะกรรมการ

มรรยาททนายความคณะเก่าพ้นจากตำแหน่ง



มาตรา ๖๐ กรรมการมรรยาททนายความพ้นจากตำแหน่ง เมื่อ

(๑) ครบวาระ

(๒) ตาย

(๓) ลาออก

(๔) ขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา ๕๔ วรรคสอง หรือ

(๕) ขาดจากการเป็นทนายความตามมาตรา ๔๔



มาตรา ๖๑ ในการปฏิบัติหน้าที่ ให้กรรมการมรรยาททนายความเป็นเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมาย

อาญา และให้นำบทบัญญัติว่าด้วยการคัดค้านผู้พิพากษาตามกฎหมายว่าด้วยวิธีพิจารณาความแพ่ง มาใช้บังคับแก่กรรมการ
มรรยาททนายความด้วยโดยอนุโลม



มาตรา ๖๒ คณะกรรมการมรรยาททนายความมีอำนาจแต่งตั้งทนายความคนหนึ่งหรือหลายคนเป็น

อนุกรรมการหรือคณะทำงาน ให้กระทำกิจการใดกิจการหนึ่งในขอบอำนาจของคณะกรรมการมรรยาททนายความ เว้นแต่การ
วินิจฉัยชี้ขาดคดีมรรยาททนายความ






มาตรา ๖๓ในการพิจารณาคดีมรรยาททนายความ ต้องมีกรรมการมรรยาททนายความมาประชุมไม่น้อย

กว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนกรรมการทั้งหมดของคณะกรรมการมรรยาททนายความจึงจะเป็นองค์ประชุม

ภายใต้บังคับมาตรา ๖๔ วรรคสาม และมาตรา ๖๙ วรรคสาม การประชุมปรึกษา หรือการวินิจฉัยชี้ขาดคดี

มรรยาททนายความของคณะกรรมการมรรยาททนายความให้ถือตามเสียงข้างมาก แต่กรรมการมรรยาททนายความฝ่ายข้าง
น้อยมีสิทธิทำความเห็นแย้งได้



มาตรา ๖๔ บุคคลผู้ได้รับความเสียหายหรือทนายความมีสิทธิกล่าวหาทนายความว่าประพฤติผิดมรรยาท

ทนายความ โดยทำคำกล่าวหาเป็นหนังสือยื่นต่อประธานกรรมการมรรยาททนายความ

สิทธิกล่าวหาทนายความตามวรรคหนึ่งเป็นอันสิ้นสุดลง เมื่อพ้นกำหนดหนึ่งปีนับแต่วันที่ผู้มีสิทธิกล่าวหารู้

เรื่องการประพฤติผิดมรรยาททนายความ และเมื่อรู้ตัวผู้ประพฤติผิดแต่ต้องไม่เกินสามปีนับแต่วันประพฤติผิดมรรยาท
ทนายความ

การถอนคำกล่าวหาที่ได้ยื่นตามวรรคหนึ่ง จะเป็นเหตุให้คดีมรรยาททนายความระงับก็ต่อเมื่อ

คณะกรรมการมรรยาททนายความมีมติด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนกรรมการมรรยาททนายความที่มา
ประชุม อนุญาตให้ผู้กล่าวหาถอนคำกล่าวหาได้



มาตรา ๖๕ เมื่อได้รับคำกล่าวหาตามมาตรา ๖๔ วรรคหนึ่ง หรือเมื่อได้รับแจ้งจากศาล พนักงานอัยการ หรือ

พนักงานสอบสวน หรือเมื่อปรากฏแก่คณะกรรมการมรรยาททนายความว่ามีพฤติการณ์อันสมควรให้มีการสอบสวนมรรยาท
ทนายความผู้ใด ให้คณะกรรมการมรรยาททนายความ แต่งตั้งทนายความไม่น้อยกว่าสามคนเป็นคณะกรรมการสอบสวน ทำ
การสอบสวน เพื่อการนี้ให้คณะกรรมการสอบสวนมีอำนาจเรียกบุคคลใด ๆ มาให้ถ้อยคำ และมีหนังสือแจ้งให้บุคคลใด ๆ ส่ง
หรือจัดการส่งเอกสารหรือวัตถุเพื่อประโยชน์แก่การสอบสวนได้

เมื่อคณะกรรมการสอบสวนทำการสอบสวนเสร็จแล้ว ให้เสนอเรื่องต่อประธานกรรมการมรรยาททนายความ

เพื่อพิจารณาสั่งการตามมาตรา ๖๖ ต่อไป



มาตรา ๖๖ ในการพิจารณาคดีมรรยาททนายความ คณะกรรมการมรรยาททนายความมีอำนาจสั่งจำหน่าย

คดี สั่งยกคำกล่าวหา หรือสั่งลงโทษหรือดำเนินการกับทนายความที่ถูกกล่าวหาอย่างใดอย่างหนึ่งตามมาตรา ๕๒



มาตรา ๖๗ ในกรณีที่คณะกรรมการมรรยาททนายความมีคำสั่งตามมาตรา ๖๖ ให้ประธานกรรมการ

มรรยาททนายความส่งสำนวนคดีมรรยาททนายความนั้นไปยังนายกภายในสามสิบวันนับแต่วันมีคำสั่ง ในกรณีเช่นนี้ให้
คณะกรรมการทำการพิจารณาและจะสั่งยืน แก้หรือกลับคำสั่งของคณะกรรมการมรรยาททนายความ รวมทั้งสั่งลงโทษ หรือ
ดำเนินการกับทนายความที่ถูกกล่าวหาอย่างใดอย่างหนึ่งตามมาตรา ๕๒ ตามที่เห็นสมควรได . และก่อนที่จะมีคำสั่งดังกล่าว
คณะกรรมการอาจสั่งให้คณะกรรมการมรรยาททนายความทำการสอบสวนเพิ่มเติมก็ได้

เมื่อนายกได้รับสำนวนคดีมรรยาททนายความตามวรรคหนึ่งแล้วหากคณะกรรมการมิได้วินิจฉัยและแจ้งคำ

วินิจฉัยมายังประธานกรรมการมรรยาททนายความภายในหกสิบวันนับแต่วันได้รับสำนวน ให้ถือว่าคณะกรรมการมีคำสั่งยืน








ตามคำสั่งของคณะกรรมการมรรยาททนายความ เว้นแต่กรณีที่มีการสอบสวนเพิ่มเติม ระยะเวลาหกสิบวันให้นับตั้งแต่วันที่
ได้รับสำนวนการสอบสวนเพิ่มเติมคำสั่งของคณะกรรมการที่ยืนตามให้จำหน่ายคดี หรือยกคำกล่าวหาตามวรรคหนึ่ง หรือวรรค
สองให้เป็นที่สุด



มาตรา ๖๘ ทนายความซึ่งถูกสั่งลงโทษหรือดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งตามมาตรา ๕๒ อาจอุทธรณ์คำสั่ง

ดังกล่าวต่อสภานายกพิเศษได้ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดในข้อบังคับภายในสามสิบวันนับแต่วันได้รับแจ้งคำสั่ง ใน
กรณีเช่นนี้ให้สภานายกพิเศษทำการพิจารณาและมีคำสั่ง และให้นำบทบัญญัติในมาตรา ๖๗ วรรคหนึ่งและวรรคสอง มาใช้
บังคับแก่การพิจารณาและการมีคำสั่งของสภานายกพิเศษโดยอนุโลม

คำสั่งของสภานายกพิเศษให้เป็นที่สุด



มาตรา ๖๙ เมื่อทนายความผู้ใดต้องรับโทษจำคุกตามคำพิพากษาถึงที่สุด เว้นแต่ในความผิดอันได้กระทำ

โดยประมาทหรือความผิดลหุโทษให้ศาลชั้นต้นที่อ่านคำพิพากษาถึงที่สุดนั้น มีหนังสือแจ้งการต้องโทษจำคุกของทนายความผู้
นั้นให้ประธานกรรมการมรรยาททนายความทราบ

เมื่อได้รับหนังสือแจ้งตามวรรคหนึ่งแล้ว ให้ประธานกรรมการมรรยาททนายความ เสนอเรื่องให้

คณะกรรมการมรรยาททนายความสั่งลบชื่อทนายความผู้นั้นออกจากทะเบียนทนายความ แต่คณะกรรมการมรรยาท
ทนายความจะไม่สั่งลบชื่อทนายความผู้นั้นออกจากทะเบียนทนายความก็ได้ หากพิจารณาแล้วเห็นว่าการกระทำความผิดของ
ทนายความผู้นั้นไม่เป็นการกระทำที่ชั่วร้ายไม่เป็นการกระทำที่แสดงให้เห็นว่าทนายความผู้นั้นไม่น่าไว้วางใจในความซื่อสัตย์
สุจริต และไม่เป็นการกระทำที่เสื่อมเสียเกียรติศักดิ์แห่งวิชาชีพ

คำสั่งไม่ลบชื่อทนายความผู้กระทำผิดออกจากทะเบียนทนายความตามวรรคสองต้องมีคะแนนเสียง

เห็นชอบไม่น้อยกว่าสองในสามของจำนวนกรรมการทั้งหมดของคณะกรรมการมรรยาททนายความ

คำสั่งลบชื่อหรือไม่ลบชื่อทนายความออกจากทะเบียนทนายความตามวรรคสองให้ประธานกรรมการ

มรรยาททนายความแจ้งต่อนายกภายในสามสิบวันนับแต่วันที่มีคำสั่งและให้คณะกรรมการทำการพิจารณา และจะสั่งยืน หรือ
กลับคำสั่งของคณะกรรมการมรรยาททนายความก็ได้



มาตรา ๗๐ เมื่อมีคำสั่งอันถึงที่สุดลงโทษทนายความที่ประพฤติผิดมรรยาททนายความ หรือมีคำสั่งลบชื่อ

ทนายความออกจากทะเบียนทนายความให้นายทะเบียนทนายความจดแจ้งคำสั่งนั้นไว้ในทะเบียนทนายความและแจ้งคำสั่ง
นั้นให้ทนายความผู้ถูกกล่าวหาและผู้กล่าวหาทราบ

ในกรณีที่คำสั่งตามวรรคหนึ่งเป็นคำสั่งห้ามทำการเป็นทนายความหรือคำสั่งลบชื่อออกจากทะเบียน

ทนายความ ให้นายทะเบียนทนายความแจ้งคำสั่งนั้นให้ศาลทั่วราชอาณาจักรและเนติบัณฑิตยสภาทราบด้วย



มาตรา ๗๑ บุคคลที่ถูกลบชื่อออกจากทะเบียนทนายความจะขอจดทะเบียนและรับใบอนุญาตอีกมิได้ เว้น

แต่เวลาได้ผ่านพ้นไปแล้วไม่น้อยกว่าห้าปีนับแต่วันถูกลบชื่อ










มาตรา ๗๒ ภายใต้บังคับของบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัตินี้การประชุมปรึกษา การสอบสวน

การพิจารณา และการวินิจฉัยชี้ขาดคดีมรรยาททนายความให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดในข้อบังคับ



หมวด ๘

กองทุนสวัสดิการทนายความ

-----------------------



มาตรา ๗๓ ให้มีกองทุนสวัสดิการทนายความ ประกอบด้วย

(๑) เงินที่สภาทนายความจัดสรรให้เป็นประจำปี

(๒) ทรัพย์สินที่มีผู้บริจาคให้ และ

(๓) ดอกผลของ (๑) และ (๒)

ทนายความที่ได้รับความเดือดร้อนหรือทายาทของทนายความที่ถึงแก่ความตายซึ่งได้รับความเดือดร้อน

มีสิทธิขอรับการสงเคราะห์จากเงินกองทุนสวัสดิการทนายความโดยยื่นคำขอต่อสวัสดิการสภาทนายความ

การสงเคราะห์ การเก็บรักษา และการจ่ายเงินสวัสดิการทนายความให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่

กำหนดในข้อบังคับ



หมวด ๙

การช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมาย

--------------------



มาตรา ๗๔ ให้มีคณะกรรมการช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมายประกอบด้วยนายก อุปนายก เลขาธิการ

และบุคคลอื่นอีกไม่เกินแปดคนที่คณะกรรมการแต่งตั้งจากผู้ที่เป็นทนายความมาแล้วรวมกันไม่น้อยกว่าสิบปี

ให้นายกเป็นประธานกรรมการ อุปนายกเป็นรองประธานกรรมการและเลขาธิการเป็นเลขานุการ



มาตรา ๗๕ ให้นำบทบัญญัติมาตรา ๕๘ และมาตรา ๖๐ มาใช้บังคับแก่กรรมการช่วยเหลือประชาชนทาง

กฎหมายที่คณะกรรมการแต่งตั้งตามมาตรา ๗๔ วรรคหนึ่ง โดยอนุโลม



มาตรา ๗๖ คณะกรรมการช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมายมีอำนาจหน้าที่ดังต่อไปนี้

(๑) ให้การช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมายตามมาตรา ๗๙

(๒) เก็บรักษาและจ่ายเงินกองทุนช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมายตามมาตรา ๗๗














(๓) อำนาจหน้าที่อื่นตามที่กำหนดในข้อบังคับ



มาตรา ๗๗ ให้มีกองทุนช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมายประกอบด้วย

(๑) เงินที่สภาทนายความจัดสรรให้เป็นประจำปีเป็นจำนวนไม่น้อยกว่าร้อยละสิบของเงินรายได้ของ

สภาทนายความตามมาตรา ๙ (๑) ของปีที่ล่วงมา

(๒) เงินอุดหนุนจากรัฐบาล

(๓) ทรัพย์สินที่มีผู้บริจาคให้ และ

(๔) ดอกผลของ (๑) (๒) และ (๓)



มาตรา ๗๘ ประชาชนผู้มีสิทธิได้รับความช่วยเหลือทางกฎหมายต้องเป็นผู้ยากไร้และไม่ได้รับความ

เป็นธรรม



มาตรา ๗๙ การช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมาย ได้แก่

(๑) การให้คำปรึกษา หรือแนะนำเกี่ยวกับกฎหมาย

(๒) การร่างนิติกรรมสัญญา

(๓) การจัดหาทนายความว่าต่างแก้ต่าง

คณะกรรมการช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมายจะจัดให้มีทนายความประจำคณะกรรมการช่วยเหลือ

ประชาชนทางกฎหมายเพื่อทำหน้าที่ให้ความช่วยเหลือดังกล่าวด้วยก็ได้โดยให้ได้รับค่าตอบแทนตามที่กำหนดในข้อบังคับ



มาตรา ๘๐ เมื่อมีการประชุมใหญ่สามัญประจำปีของสภาทนายความคณะกรรมการช่วยเหลือประชาชน

ทางกฎหมายต้องมีหนังสือแจ้งให้ที่ประชุมทราบถึงเงินกองทุนช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมายที่ยังเหลืออยู่ งบดุลและรายรับ
รายจ่ายของการช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมายในรอบปีที่ผ่านมาซึ่งมีคำรับรองของผู้สอบบัญชีสภาทนายความ รวมทั้ง
ผลงานและอุปสรรคข้อขัดข้องของการช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมายในรอบปีที่ผ่านมา

ให้ประธานกรรมการช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมายส่งสำเนาหนังสือแจ้งให้ที่ประชุมทราบตามวรรคหนึ่ง

ไปยังรัฐมนตรีเพื่อทราบด้วย



มาตรา ๘๑ ภายใต้บังคับของบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัตินี้ การประชุมของคณะกรรมการช่วยเหลือ

ประชาชนทางกฎหมาย การรับเงิน การจ่ายเงิน และการเก็บรักษาเงินกองทุนช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมายการดำเนินการ
ช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมายให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดในข้อบังคับ



หมวด ๑๐

บทกำหนดโทษ

-----------------

มาตรา ๘๒ ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา ๓๓ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปีหรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาทหรือทั้ง

จำทั้งปรับ




มาตรา ๘๓ ผู้ใดไม่ปฏิบัติตามหนังสือเรียกตามมาตรา ๖๕ วรรคหนึ่ง ซึ่งให้มาเพื่อให้ถ้อยคำหรือให้ส่งหรือ

จัดการส่งเอกสารหรือวัตถุใดหรือมาตามหนังสือเรียกแล้วแต่ไม่ยอมให้ถ้อยคำ โดยปราศจากเหตุอันสมควร ต้องระวางโทษ
จำคุกไม่เกินหนึ่งเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ



บทเฉพาะกาล

--------------



มาตรา ๘๔ ให้ผู้ที่ได้จดทะเบียนและรับใบอนุญาตเป็นทนายความชั้นหนึ่งหรือชั้นสองอยู่แล้วก่อนวันที่

พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ เป็นผู้ที่ได้จดทะเบียนและรับใบอนุญาตตามพระราชบัญญัตินี้ และให้ถือว่าใบอนุญาตเป็น
ทนายความนั้น ๆ เป็นใบอนุญาตที่ได้ออกให้ตามพระราชบัญญัตินี้ แต่ให้มีอายุใช้ได้จนถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม ของปีที่
พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ

ให้ผู้ซึ่งขาดคุณสมบัติตามมาตรา ๓๕ (๓) ที่ได้จดทะเบียนและรับใบอนุญาตหรือเคยจดทะเบียนและรับ

ใบอนุญาตเป็นทนายความชั้นสองอยู่แล้วก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับมีสิทธิขอต่ออายุใบอนุญาตตามมาตรา ๓๙ และ
มาตรา ๔๐ หรือขอจดทะเบียนและรับใบอนุญาตได้และให้ถือว่าผู้นั้นเป็นทนายความตามพระราชบัญญัตินี้

ให้นำบทบัญญัติตามมาตรา ๓๕ (๑) (๒) (๔) (๕) (๖) (๗) (๘) (๙) (๑๐)และ (๑๑) มาใช้บังคับแก่

ทนายความตามวรรคสองด้วย



มาตรา ๘๕ ให้เนติบัณฑิตยสภาส่งมอบทะเบียนทนายความและบรรดาเอกสารที่เกี่ยวกับการจดทะเบียน

และรับใบอนุญาตเป็นทนายความการต่ออายุใบอนุญาตเป็นทนายความและการควบคุมมรรยาททนายความ เว้นแต่สำนวนคดี
มรรยาททนายความที่ยังค้างพิจารณาอยู่ให้แก่สภาทนายความภายในหนึ่งร้อยยี่สิบวันนับแต่วันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ



มาตรา ๘๖ ให้คณะกรรมการออกข้อบังคับว่าด้วยมรรยาททนายความตามมาตรา ๕๓ ภายในหนึ่งปีนับแต่

วันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ

ในระหว่างที่คณะกรรมการยังมิได้ออกข้อบังคับว่าด้วยมรรยาททนายความตามวรรคหนึ่งให้ถือว่า

บทบัญญัติตามมาตรา ๑๒ (๑) (๒) (๓) และ (๔) แห่งพระราชบัญญัติทนายความ พุทธศักราช ๒๔๗๗ และข้อบังคับของเนติ
บัณฑิตยสภาว่าด้วยมรรยาททนายความและการแต่งกายของทนายความที่ใช้บังคับอยู่ก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ
เป็นเสมือนข้อบังคับว่าด้วยมรรยาททนายความตามพระราชบัญญัตินี้จนกว่าจะมีข้อบังคับว่าด้วยมรรยาททนายความตาม
วรรคหนึ่ง

มาตรา ๘๗ ให้มีคณะกรรมการมรรยาททนายความตามมาตรา ๕๔ ภายในเก้าสิบวันนับแต่วันที่มีข้อบังคับ

ว่าด้วยมรรยาททนายความตามมาตรา ๘๖ วรรคหนึ่ง

ให้บรรดาคดีมรรยาททนายความที่ค้างพิจารณาอยู่ก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ และคดีมรรยาท

ทนายความที่เกิดขึ้นในขณะที่ยังไม่มีคณะกรรมการมรรยาททนายความตามวรรคหนึ่งอยู่ในบังคับของบทบัญญัติแห่งกฎหมาย
ว่าด้วยทนายความที่ใช้อยู่ก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับจนกว่าจะเสร็จการ








เพื่อประโยชน์แห่งบทบัญญัติวรรคสอง ให้คณะกรรมการมรรยาททนายความและบุคคล ซึ่งมีอำนาจหน้าที่

เกี่ยวกับคดีมรรยาททนายความอยู่ก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ หรือที่จะได้รับการแต่งตั้งเพื่อการปฏิบัติตามบทบัญญัติ
วรรคสอง มีอำนาจกระทำการตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายว่าด้วยทนายความที่ใช้อยู่ก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับต่อไป
จนกว่าจะเสร็จการ



มาตรา ๘๘ ในวาระเริ่มแรกให้รัฐมนตรีแต่งตั้งทนายความซึ่งมีคุณสมบัติของผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็น

กรรมการตามมาตรา ๑๗ วรรคสอง จำนวนสิบห้าคน ซึ่งในจำนวนนี้ต้องเป็นกรรมการบริหารของสมาคมทนายความแห่ง
ประเทศไทยไม่น้อยกว่าหนึ่งในสาม เป็นคณะกรรมการตามมาตรา ๑๔ ทั้งนี้ ภายในเก้าสิบวันนับแต่วันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้
บังคับ



มาตรา ๘๙ ให้คณะกรรมการซึ่งรัฐมนตรีแต่งตั้งตามมาตรา ๘๘ เลือกและแต่งตั้งกรรมการด้วยกันเองคน

หนึ่งเป็นนายกตามมาตรา ๑๔ ทั้งนี้ ภายในเจ็ดวันนับแต่วันที่รัฐมนตรีแต่งตั้ง

ให้คณะกรรมการตามวรรคหนึ่งจัดให้มีการเลือกตั้งคณะกรรมการตามมาตรา ๑๔ ภายในเก้าสิบวันนับแต่

วันที่ได้รับแต่งตั้ง



ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ

พลเอก ป. ติณสูลานนท์

นายกรัฐมนตรี



อัตราค่าธรรมเนียม

------------

(๑) การจดทะเบียนเป็นทนายความ ๘๐๐ บาท

(๒) การรับใบอนุญาตให้เป็นทนายความตลอดชีพ ฉบับละ ๔,๐๐๐ บาท

(๓) การรับใบอนุญาตให้เป็นทนายความสองปี ฉบับละ ๘๐๐ บาท

(๔) การต่ออายุใบอนุญาตให้เป็นทนายความ ฉบับละ ๘๐๐ บาท

(๕) การออกใบแทนใบอนุญาตให้เป็นทนายความ ฉบับละ ๑๐๐ บาท



http://legalhistoryblog.blogspot.com/2007_06_01_archive.html

http://lawyerslawyer.net/2008/07/06/robyn-tampoe-schapelle-corbys-solicitor/

http://www.europeanlawyer.co.uk/yb_europeancommission.html

http://www.negotiationlawblog.com/articles/legal-practice/


http://arturoafc54.wordpress.com/category/cocaine/

http://www.legalweek.com/legal-week/news/1149167/adverse-conditions

http://www.solicitr.com/2009/01/21/obamas-inauguration-oh-fluff/

http://www.gerryriskin.com/cat-the-legal-profession.html


http://en.wikipedia.org/wiki/Lawyer


A lawyer, according to Black's Law Dictionary, is "a person learned in the law; as an attorney, counsel or solicitor; a person licensed to practice law."[1] Law is the system of rules of conduct established by the sovereign government of a society to correct wrongs, maintain stability, and deliver justice. Working as a lawyer involves the practical application of abstract legal theories and knowledge to solve specific individualized problems, or to advance the interests of those who retain (i.e., hire) lawyers to perform legal services.

The role of the lawyer varies significantly across legal jurisdictions, and so it can be treated here in only the most general terms.[2][3] More information is available in country-specific articles (see below).

Contents

[hide]


http://www.lawyerscouncil.or.th/